พร่ำรำพึงซึ้งทรวงสุดห่วงหา
พรรณนาว่ารักใครจักเหมือน
ฝากคำหวานผ่านฟ้ามาเยี่ยมเยือน
กลัวรักเลือนเบือนหน้าน้ำตาคลอ
สุดกังวลหม่นหมองนั่งมองฟ้า
เดือนแจ่มตาคราเหงาเพียงเฝ้าขอ
ให้คนไกลไม่ลืมดื่มด่ำพอ
คิดถึงหนอรอสมภิรมย์ทรวง
สะท้านอกตระหนกจิตคิดวาบหวิว
เกรงรักปลิวลิ่วลับดับแดนสรวง
เย็นยะเยือกหวั่นไหวกลัวใครลวง
รักพุ่มพวงห่วงหาน้ำตานอง
หนาวแดนไกลแต่ไฉนในอกฉัน
กลับสะบั้นสั่นเทิ้มเติมสนอง
คะนึงหาผวาหวั่นสัมพันธ์ปอง
หนาวคูณสองมองผ่านม่านฟ้าไกล
ฝากคำซึ้งถึงนวลชวนสุขสม
เปิดอารมณ์ด้วยมั่นวันฟ้าใส
กระแสจิตติดต่อหนอหนึ่งใคร
สื่อจากใจให้ตรงส่งใจเธอ
ให้ฟ้าดินเป็นพยานคำขานขับ
ให้รอรับด้วยมั่นวันเสนอ
ให้รับรู้ผู้ซึ้งถึงละเมอ
ให้รักเอ่อเลอล้น..สองคนเรา..
พรรณนาว่ารักใครจักเหมือน
ฝากคำหวานผ่านฟ้ามาเยี่ยมเยือน
กลัวรักเลือนเบือนหน้าน้ำตาคลอ
สุดกังวลหม่นหมองนั่งมองฟ้า
เดือนแจ่มตาคราเหงาเพียงเฝ้าขอ
ให้คนไกลไม่ลืมดื่มด่ำพอ
คิดถึงหนอรอสมภิรมย์ทรวง
สะท้านอกตระหนกจิตคิดวาบหวิว
เกรงรักปลิวลิ่วลับดับแดนสรวง
เย็นยะเยือกหวั่นไหวกลัวใครลวง
รักพุ่มพวงห่วงหาน้ำตานอง
หนาวแดนไกลแต่ไฉนในอกฉัน
กลับสะบั้นสั่นเทิ้มเติมสนอง
คะนึงหาผวาหวั่นสัมพันธ์ปอง
หนาวคูณสองมองผ่านม่านฟ้าไกล
ฝากคำซึ้งถึงนวลชวนสุขสม
เปิดอารมณ์ด้วยมั่นวันฟ้าใส
กระแสจิตติดต่อหนอหนึ่งใคร
สื่อจากใจให้ตรงส่งใจเธอ
ให้ฟ้าดินเป็นพยานคำขานขับ
ให้รอรับด้วยมั่นวันเสนอ
ให้รับรู้ผู้ซึ้งถึงละเมอ
ให้รักเอ่อเลอล้น..สองคนเรา..
"บ้านริมโขง"
๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖
ความคิดถึงส่งให้..แม้นได้รับ
โปรดสดับความนัยว่าใครเฝ้า
หวังแรงใจถึงกันได้บรรเทา
ความเงียบเหงาเศร้าจาง ..บ้าง บางที
พี่ดั่งจันทร์ทอแจ่มแอร่มสรวง
หมู่ดาราทั้งปวงรายล้อมพี่
น้องคนไกลไหวหวั่นพรั่นฤดี
หมดสิทธิ์ที่ใฝ่ปอง..จ้องโพยม
กราบบูชาฟ้าดินถึงถิ่นแถน
เทพเมืองแมน..ยามเศร้าเข้าถาโถม
จงเมตตาแซมน้อยคอยประโลม
อย่าให้โทมนัสหนักใจหักราน
ได้โปรดเถิด..จันทร์เจ้าขา ข้าฯวอนขอ
อย่าให้รอใฝ่พะวง..ช่วยสงสาร
ไม่อยากให้รักเป็นเช่นนิทาน
ทรมานกระต่ายน้อยเฝ้าคอยเดือน
แซมค่ะ
ช่างจินตนาว่าพี่นี้ไม่รัก
ช่างเปรียบเปรยเอ่ยอ้างวางความหมาย
ช่างบรรยายสายทางวางเอ่ยเอื้อน
ช่างกล่าวถ้อยร้อยคำดั่งย้ำเตือน
ช่างห่วงใยในเพื่อนไม่เลื่อนเลย
จินตนาพาไปไกลเกินกู่
จินตนาน่าดูผู้เฉลย
จินตนาว่าชายหมายเปรียบเปรย
จินตนาดั่งเอ่ยไหนเคยมี
ว่ามองเห็นเช่นเดือนเพื่อนรายล้อม
ว่ามากพร้อมด้วยรักสลักศรี
ว่าคงเลยลืมบ้างบางนารี
ว่าวจีคงหว่านคำหวานวาง
พี่เป็นชายหมายเดือนเสมือนเจ้า
พี่คอยเฝ้ามองฟ้าคราเหินห่าง
พี่ห่วงเดือนเลือนหายที่ปลายทาง
พี่สิสร้างบันใดไปสาวเดือน
นี้คือค่าความจริงสิ่งมองเห็น
นี้ประเด็นในอกตกเสมือน
นี้แหละหนาคราครั้งยังไม่เลือน
นี้คอยเตือนเพื่อนใจลืมไม่ลง
ไม่มีใครไหนอื่นชวนชื่นฉ่ำ
ไม่มีคำไหนซึ้งถึงลืมหลง
ไม่มีคำคำใดไหนมั่นคง
ไม่มีคำใดส่ง..ตรงรักเรา
รักนั้นคือสื่อสารด้านเสน่หา
รักนั้นคือใฝ่หามาเคียงเจ้า
รักนั้นคือหนึ่งคำน้อมนำเอา
รักนั้นคือรากเหง้าความเข้าใจ..
ช่างบรรยายสายทางวางเอ่ยเอื้อน
ช่างกล่าวถ้อยร้อยคำดั่งย้ำเตือน
ช่างห่วงใยในเพื่อนไม่เลื่อนเลย
จินตนาพาไปไกลเกินกู่
จินตนาน่าดูผู้เฉลย
จินตนาว่าชายหมายเปรียบเปรย
จินตนาดั่งเอ่ยไหนเคยมี
ว่ามองเห็นเช่นเดือนเพื่อนรายล้อม
ว่ามากพร้อมด้วยรักสลักศรี
ว่าคงเลยลืมบ้างบางนารี
ว่าวจีคงหว่านคำหวานวาง
พี่เป็นชายหมายเดือนเสมือนเจ้า
พี่คอยเฝ้ามองฟ้าคราเหินห่าง
พี่ห่วงเดือนเลือนหายที่ปลายทาง
พี่สิสร้างบันใดไปสาวเดือน
นี้คือค่าความจริงสิ่งมองเห็น
นี้ประเด็นในอกตกเสมือน
นี้แหละหนาคราครั้งยังไม่เลือน
นี้คอยเตือนเพื่อนใจลืมไม่ลง
ไม่มีใครไหนอื่นชวนชื่นฉ่ำ
ไม่มีคำไหนซึ้งถึงลืมหลง
ไม่มีคำคำใดไหนมั่นคง
ไม่มีคำใดส่ง..ตรงรักเรา
รักนั้นคือสื่อสารด้านเสน่หา
รักนั้นคือใฝ่หามาเคียงเจ้า
รักนั้นคือหนึ่งคำน้อมนำเอา
รักนั้นคือรากเหง้าความเข้าใจ..
"บ้านริมโขง"
๑๓ มีันาคม ๒๕๕๖