หอมวรรณศิลป์
(โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน)
(๔)
ชั้นแต่มนุษย์ซ่านซึ้ง มหรรณพ มณีค่า
โล้เห่กล่อมหล้าภพ หฤหรรษ์
กวีฉานฤดีคบ ไฟศิลป์ โชนแฮ
โคลงฉันท์แรปาดปั้น กาพย์แก้วกลอนกรองฯ
ฉันท์
(๒)
อารมณ์สาคร โล้ร่อนทุ่มถั่ง
ขึ้นลงโถมฝั่ง แตกฟ่องว่องวาย
หมู่ชนสนเท่ห์ หกเหวกว่าย
ยากหยั่งเค้าหมาย ส่ำสายชลเล่ห์ฯ*
กาพย์
(๓)
ชลสินธุ์โล้คลื่นเห่ ดั่งหญิงเล่ห์หลอนปอกปลิ้น
ยากหยั่งสาครจินต์ คล้ายลมลิ้นหญิงลวงชาย
คลุ้มคลั่งบ้างเรียบสงัด บ้างขึ้งขัดบ้างตาปราย
จึ่งเปรียบมารยาไสย หญิงนั้นร้ายคล้ายคลื่นชเลฯ**
กลอน
(๔)
ทะเลครวญโลกร้อนคาร์บอนร้าย
เข้าโจมจู่ทำลายโอโซนชั้น
แหวกช่องฟ้า, รังสี-สุริยัน
กรูเผาพลันขั้วโลกน้ำแข็งละลายฯ
สนอง เสาทอง
สุขสนาม
สุรินทร์
10 มีนาคม 56
*วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
**กาพย์ยานี ๑๑
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
22 ธันวาคม 2024, 10:27:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: เขาว่ากวีตายแล้ว (อ่าน 72138 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: