มีที่นาห้าสิบไร่ไร้เมฆฝน
สู้อดทนนาแห้งแล้งแข็งเหมือนหิน
ตัดสินใจหว่านข้าวใส่ลงในดิน
ความหวังสิ้นคราวเคราะห์ำซ้ำกรรมตามมา
พบฝนแล้งดินแห้งผากลำบากแสน
สุดเคืองแค้นชอกช้ำใจให้โหยหา
เดือนสิบสองดินขาดน้ำช้ำอุรา
คราบน้ำตาตกข้างในมิไหลนอง
มองต้นข้าวใบสีเหลืองแห้งเหี่ยวเฉา
ช่างปวดร้าวฝืนทนจนหม่นหมอง
เมื่อปีกลายฝายน้ำล้นจนท่วมคลอง
มาปีนี้น้ำในหนองแห้งขอดลง
หวังมีใครได้เข้ามาช่วยนาล่ม
ซับน้ำตาคราระทมตรมใจหลง
ปรับเปลี่ยนนาเป็นสวนปาล์มตามนิยม
หากปาล์มล้ม...เปลี่ยนปลูกอ้อย...เพื่อคอยนาง..
ริน ดอนบูรพา
๗ มี.ค. ๕๖
สู้อดทนนาแห้งแล้งแข็งเหมือนหิน
ตัดสินใจหว่านข้าวใส่ลงในดิน
ความหวังสิ้นคราวเคราะห์ำซ้ำกรรมตามมา
พบฝนแล้งดินแห้งผากลำบากแสน
สุดเคืองแค้นชอกช้ำใจให้โหยหา
เดือนสิบสองดินขาดน้ำช้ำอุรา
คราบน้ำตาตกข้างในมิไหลนอง
มองต้นข้าวใบสีเหลืองแห้งเหี่ยวเฉา
ช่างปวดร้าวฝืนทนจนหม่นหมอง
เมื่อปีกลายฝายน้ำล้นจนท่วมคลอง
มาปีนี้น้ำในหนองแห้งขอดลง
หวังมีใครได้เข้ามาช่วยนาล่ม
ซับน้ำตาคราระทมตรมใจหลง
ปรับเปลี่ยนนาเป็นสวนปาล์มตามนิยม
หากปาล์มล้ม...เปลี่ยนปลูกอ้อย...เพื่อคอยนาง..
ริน ดอนบูรพา
๗ มี.ค. ๕๖