เจียระไนแก้วมณีแห่งชีวิต
๑
หากชีวิตว่างแล้ง มโนธรรม
จักจ่อมตายหายจำ ไป่ได้
มดปลวกที่ถึงกรรม สูญเปล่า
โลกไม่รู้จักไซร้ หม่นไหม้เวรมหันต์ฯ
๒
น้ำใจคือหลั่งฟ้า สายฝน
เมฆอยู่เมืองบน หล่นหล้า
ไมตรีชื่นใจคน ทั้งโลก
โศกเร่งหายภายหน้า แกร่งกล้าถวายขวัญฯ
๓
เกิดมาเพื่อจ่ายหนี้ ธรณี
ค้างค่าโพธิสัตว์ศรี ส่วยแก้ว
อุปการซึ่งโลกมี แด่มนุษย์ นั้นมา
คืนค่าสังคมแล้ว พร่างแพร้วมณีศิลป์ฯ
๔
ตื่นแต่ดึกนั้น วันคืน
สั้นแต่ยาวอายุยืน หมื่นข้าว
อ่านเขียนแต่งโคลงฝืน จนสว่าง
ตนตื่นถึงพุทธเจ้า รุ่งเร้าพลังขลังฯ
๕
หลับตาหัวค่ำข้าม อุษาโยค
ยาวแต่สั้นอายุโศก เสื่อมสั้น
อวิชชาเร่งอปโลกน์ กิเลสโลก นานา
ตกหล่มตนดื้อรั้น ร่วงแล้งพลังสลาย ฯ@ฯ
๑
ใจใครเหลวไหลฆ่าเวลา
เล่ห์ฆ่าวิชาทำสูญหาย
ขาดงานอมตะค่าแพรวพราย
จะตายอย่างสุนัขเน่าเปล่าไปฯ
๒
กระแสเวลาสายวารี
ระเรื่อยรี่ไหลคอยใครไฉน
สิ่งสุนทรีย์ไม่มีสถิตใจ
อวิชชาใหม่ทาสเก่างั่งงมฯ
๓
งกโลภอะไรในโลกนี้
รีบปล้นจี้ฝากป่าช้าสะสม
แต่แสงรุ้งหรือจะเปื้อนโคลนตม
ชื่นปราชญ์ขมก็หวานญาณปัญญาฯ
๔
นั่นอเวจีนี่พระพุทธเจ้า
ค่ำเช้าเพ่งคิดธรรมปฤศนา
ตื่นดึกดื่นเรียนค่าเวลา
ยืดค่าชีวายืนหมื่นปี
๕
เร่งเพียรเขียนกาพย์กลอนโคลงฉันท์
กำนัลโลกเลิศประเสริฐศรี
เพื่อมนุษย์มั่วคุณงามความดี
ปฐพีเป็นสวรรค์นิรันดร ฯ@ฯ
อังคาร กัลยาณพงศ์
เจียระไนแก้วมณีแห่งชีวิต, ปณิธานกวี, พิมพ์ครั้งที่ 11, กรุงเทพฯ : ศยาม, 2554, pp61-63
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
22 ธันวาคม 2024, 10:48:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: เขาว่ากวีตายแล้ว (อ่าน 72148 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: