(ขอบคุณความรู้จากอินเตอร์เน็ต http://www.thatphanom.com/2401/(2).html)
พระธาตุพนม เป็นอุทเทสิกเจดีย์สถานอีกแห่งหนึ่งที่ผูกศรัทธาของพี่น้องชาวอีสานกับทั้งประชาชนทั่วประเทศผู้ถือพระพุทธศาสนาค่าที่เป็น ปฐมแห่งบรมเจดีย์ในสุวรรณภูมิ
ในหนังสือเรียนระบุว่า พระปฐมเจดีย์ เป็นหลักชัยแห่งแรกในประเทศที่ถูกสร้างเพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงการ "เข็นล้อธรรม" ประกาศพระศาสนาที่แรกในแหลมทองนี้ โดยอาศัยเหตุจาก พระโสณะเถระ และ พระอุตตระเถระ เป็นต้นเค้าศรัทธา
หากในทางปฏิบัติ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าโคกมน อ.วังสะพุง จ.เลย ได้กล่าวหนักแน่นเมื่อครั้งไปสักการะพระธาตุพนมว่า พระธาตุพนมนี้เป็นเจดีย์ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทยหรือแคว้นสุวรรณภูมิเรานี่แหละ ยังเมตตาเล่าอีกว่าที่ท่านได้บวชแต่น้อยจนใหญ่และปฏิบัติจน "ข้ามทะเลทุกข์" ได้นี่ก็เพราะ...
“เอาผ้าขาววาหนึ่ง กับเงินบาทหนึ่งมาทานตอนสร้างพระธาตุพนม แล้วอธิษฐานขอให้พ้นทุกข์”
ครูบาอาจารย์จึงสอนนักว่า อย่าประมาทกับความดีที่ทำว่าเพียงน้อยนิดและอย่าประมาทกับความชั่วว่าเล็กน้อยไม่น่าจะให้ผล
พระธาตุพนม ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 8 โดยพระมหากัสสปะเถรพร้อมทั้งพระอรหันต์ล้วนอีก 500 รูป อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกหัวอกหรือ พระอุรังคธาตุ มาจากชมพูทวีป(ประเทศอินเดีย) เพื่อประดิษฐานไว้ยังมงคลปเทสอันปัจจุบันคือพระธาตุพนม
เนื่องจากพระมหากัสสปะเถรเป็นพระอรหันตเจ้าที่พระบรมศาสดาทรงยกย่องเป็นยิ่งในทุกด้านทุกทาง กระทั่งพระองค์ทรงแลกผ้าสังฆาฏิกับพระมหากัสสปะและตรัสเรียกเสมอว่า
“กัสสปะผู้เป็นบุตรของเรา”
ครั้งพระศาสดาเสด็จสู่มหาปรินิพพาน พระสาวกทั้งหลายและกษัตริย์ทุกเมืองไม่อาจจุดไฟถวายพระเพลิงแก่พระบรมศพได้ กระทั่งพระมหากัสสปะธุดงค์ออกจากป่ามาถึง ครั้นก้มลงกราบพระสรีระที่ปลายพระบาทก็ปรากฏอัศจรรย์ พระบาททั้งสองได้ยื่นออกจากผ้ากัมพลที่ห่อพระบรมศพไว้ถึง 500 ชั้นทะลุผ่านพระหีบทองทึบให้พระมหากัสสปะได้กราบซบลง
จากนั้นเตโชธาตุก็ลุกโพลง
แผดเผาพุทธสรีระอยู่ 7 วันจนหมดสิ้นคงเหลือแต่พระอัฐิธาตุ 7 ชิ้นที่ไฟไม่อาจทำลายได้คือ พระอุณหิส(กระดูกกระหม่อม) 1 พระเขี้ยวแก้ว(ฟันส่วนเขี้ยว) ทั้ง 4 พระรากขวัญ(กระดูกไหปลาร้า) ทั้ง 2
นอกนั้นแตกย่อยลงอย่างใหญ่สุดมีสัณฐานเท่าเมล็ดถั่วแตก อย่างกลางเท่าเมล็ดข้าวสาร อย่างเล็กเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาด รวมกันตวงได้ 16 ทะนาน จากนั้นโทณพราหมณ์ผู้ได้รับการตั้งให้เป็นคนแจกจ่ายพระบรมสารีริกธาตุได้ทำการ แฮป เอาพระทาฒธาตุหรือพระเขี้ยวแก้วเบื้องขวาซี่บนไว้เป็นสมบัติตัวโดยซ่อนไว้ในผ้าโพกศีรษะ
ปรากฏว่าพระอินทร์ส่องทิพยเนตรมาดูเห็นความไม่ซื่อของโทณพราหมณ์ก็คิดว่า ตาพราหมณ์นี้ไม่บังควรได้ของดีวิเศษเป็นเลิศประเสริฐในโลกเช่นนี้ไป ด้วยไม่อาจทำสักการวิธีอันสมควรแก่พระบรมธาตุได้ จึงตัดสินใจลงจากดาวดึงส์เทวโลกมา ขมาย คือแฮปต่ออีกทีหนึ่งไปประดิษฐานไว้ยังพระจุฬามณีเจดีย์สถานในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ส่วนพระเขี้ยวแก้วเบื้องขวาซี่ล่างถูกอัญเชิญไปประดิษฐานอยู่เมืองกลิงคราฐและปัจจุบันไปอยู่ลังกาทวีป (เมืองแคนดี้ในประเทศศรีลังกา) พระเขี้ยวแก้วเบื้องซ้ายซี่บนประดิษฐานที่เมืองคันธารราฐ (แถบตะวันออกกลางแถวเมืองบามิยัน) พระเขี้ยวแก้วเบื้องซ้ายซี่ล่างประดิษฐานอยู่ ณ นาคพิภพ
พระรากขวัญเบื้องขวาองค์อัมรินทราธิราชและหมู่เทพดามาอัญเชิญไปไว้ยังพระเกศแก้วจุฬามณีคู่กับพระเขี้ยวแก้วในเทวโลก พระรากขวัญเบื้องซ้ายกับพระอุณหิสท้าวฆฏิการพรหมมาอัญเชิญไปประดิษฐานยังพระมหาทุสเจดีย์ในพรหมโลก
พระมหากัสสปะเถรผู้เป็นพุทธบุตร เมื่อกราบคารวะพระบรมศพแล้วก็เกิดปาฏิหาริย์คือพระอุรังคธาตุได้เสด็จออกจากพระหีบทองมาสู่ฝ่ามือขวาก่อนเตโชธาตุจะลุกเปลว
ท่านจึงดำเนินการตามพุทธดำรัสก่อนปรินิพพานคือให้นำพระอุรังคธาตุไปประดิษฐานไว้ ณ ดอยกปณคีรี เมืองศรีโคตบูรณ์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
23 พฤศจิกายน 2024, 10:34:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: กราบลง ณ ตรงพื้นธุลีพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ (อ่าน 4575 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: