จิตสับสนวนว่ายกายเจ็บปวด
พิษร้าวรวดหนักหนาน้ำตาพร่าง
มองหนใดไร้เงาแม้เบาบาง
คนเคียงข้างรับรู้อยู่อย่างใด
ทุกคืนค่ำย่ำแย่แพ้ตลอด
สองมือกอดหมอนหนุนความอุ่นให้
คุดคู้กายหมายซับรับอุ่นไอ
หล่อเลี้ยงใจให้ชื่นยืนหยัดตน
หน้ายิ้มแย้มแจ่มใสที่ใครเห็น
แสนลำเค็ญซุกซ่อนตะกอนหม่น
มิปรากฏแสดงแจ้งผู้คน
ความทุกข์ทนใดใดในชีวิต
เมื่อชะตากำหนดบทบาทมอบ
จะชื่นชอบหรือไม่ไม่มีสิทธิ์
ต้องยอมรับเอาไว้อย่างใกล้ชิด
พรหมลิขิตชักพามาแล้วไป
ถึงจะสั่นหวั่นหวาดพลาดล้มกลิ้ง
ก็ต้องอิงดันตัวขึ้นมาใหม่
สองมือยันฟันฝ่าหาหลักชัย
แม้ว่าใครไม่มีเป็นที่พิง
มิโทษอื่นพ้นตัวให้มัวหมอง
เพียงจิตพร่องส่องส่ายไม่หยุดนิ่ง
ความรู้สึกใดใดใจประวิง
รับความจริงให้ได้..ไม่ต้องรอ
"กานต์ฑิตา"
๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖