ถึงมีใคร สักคน บนห้วงหาว
อาจจะร้าว กว่าเก่า เราไม่ฝัน
คิดใคร่ครวญ ก่อนหนา อย่าจาบัลย์
ผ่านวานวัน คงมี ที่ดีคอย
รู้เป็นเธอ ที่ตรม ขมใจขื่น
ขอให้ยืน สู้ต่อ อย่ารอถอย
หากเหนื่อยนัก พักบ้าง ต่างทยอย
แล้วค่อยค่อย ต่อเติม เสริมขึ้นมา
ทางก้าวไกล ล้วนรู้ ปูขวากหนาม
ตัดแต่งตาม ความชอบ ขอบเขตหนา
ปลายอุโมงค์ สดใส ในพริบตา
หากเรากล้า มาแน่ แค่เอื่อมมือ
ช่วยบรรเลง เองเอื้อน เพื่อเยือนหล้า
ดวงดารา รายล้อม น้อมยึดถือ
หยิบคว้าเอา เข้าแนบ แอบอกคือ
ดาวเด่นชื่อ ยื้อไว้ ในใจตน
ขอเป็นใคร สักคน บนทางหนาว
เป็นผ้าขาว สวมใส่ ในทุกหน
เป็นแรงใจ ยามท้อ ขอสู้ทน
เป็นถนน โรยกุหลาบ ฉาบด้วยรัก
พันทอง
๒๕/๐๒/๕๖
เพียงได้รู้ว่ารักคงภักดิ์ยิ่ง
ในทุกสิ่งชื่นชมภิรมย์ตระหนัก
สองดวงใจย่อมรู้เคียงคู่ภักดิ์
ได้ประจักษ์คือค่าภาษาใจ
สำหรับฉันวันนี้ไม่มีรัก
ที่ฟูมฟักให้เห็นเป็นไฉน
ใต้เงาจันทร์หมองยิ่งกว่าสิ่งใด
ไม่มีใครห่วงหาเฝ้าอาทร
ได้แต่มองใครอื่นเขาชื่นสุข
มีคนปลุกปลอบใจมิถ่ายถอน
ฉันอ่อนล้าสร้างหวังบนทางกลอน
แค่แอบออนตอนเหงาให้เบาคลาย
ยามราตรีมองจันทร์บนม่านฟ้า
คราบน้ำตาเปรอะเปื้อนมิเลือนหาย
เห็นภาพเงาบนฟ้าตาพร่าพราย
ขาดสิ่งหมายเกี่ยวปอง...ห้องกมล
"สุนันยา"
ในทุกสิ่งชื่นชมภิรมย์ตระหนัก
สองดวงใจย่อมรู้เคียงคู่ภักดิ์
ได้ประจักษ์คือค่าภาษาใจ
สำหรับฉันวันนี้ไม่มีรัก
ที่ฟูมฟักให้เห็นเป็นไฉน
ใต้เงาจันทร์หมองยิ่งกว่าสิ่งใด
ไม่มีใครห่วงหาเฝ้าอาทร
ได้แต่มองใครอื่นเขาชื่นสุข
มีคนปลุกปลอบใจมิถ่ายถอน
ฉันอ่อนล้าสร้างหวังบนทางกลอน
แค่แอบออนตอนเหงาให้เบาคลาย
ยามราตรีมองจันทร์บนม่านฟ้า
คราบน้ำตาเปรอะเปื้อนมิเลือนหาย
เห็นภาพเงาบนฟ้าตาพร่าพราย
ขาดสิ่งหมายเกี่ยวปอง...ห้องกมล
"สุนันยา"