ที่สิบสามกุมภาพันธ์พระจันทร์หม่น
เราสองคนชวนกันไปดูหนัง
ผ่านป่าช้าทางเปลี่ยวแสนเสียวจัง
เย็นสันหลังหัวผมลมโชยมา
ถึงหน้าวัดยอบนั่งยังไม่ฉาย
คนมากมายคุยจ้อคอยรอท่า
เสียงโฆษกบรรยายขายหยูกยา
จึงซื้อหาแทะเม็ดทานตะวัน
หนังสิบหก ม.ม. ขึงจอผ้า
จอกว้างกว่ามุ้งไนล่อนที่นอนฉัน
เรื่องตลก อกหัก รักหวานมัน
มิตร-เพชรา คู่กันนำแสดง
เริ่มต้นเรื่องพระเอกเป็นเด็กวัด
ความจนจัดถ่อกายไปหลายแห่ง
แบกข้าวสารงานหนักหักโหมแรง
จ้างถูกแพงมิท้อขอได้เงิน
แฟนสาวส่งแรงใจให้เสมอ
รักเลิศเลอรักเติมวันน่าสรรเสริญ
เรียนจบได้งานทำท้ายจำเริญ
เคียงคู่เดินสมใจได้แต่งงาน
.....................................
จึงแอบจำลอกเลียนเช่นในหนัง
มือไพล่หลังแหงนเงยเอ่ยคำหวาน
จะรักเธอเท่าฟ้าสุธาธาร
ตลอดกาลเรื่อยไปไม่เปลี่ยนแปลง
ยื่นกุหลาบแดงให้เธอหนึ่่งดอก
เช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2513
รพีกาญจน์