Re: เขาว่ากวีตายแล้ว
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 ธันวาคม 2024, 10:15:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เขาว่ากวีตายแล้ว  (อ่าน 72128 ครั้ง)
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2013, 04:52:PM »

หากโลกสิ้นกวี

หากโลกนี้ขาดสิ้นกวีศรี
มวลบุปผชาติมาลีคงเจียมค่า
ไร้ซึ่งกวีเชยชื่นพร่ำพรรณนา
ปวงบุปผาคงเขียมบานไร้ใครมอง

หากโลกนี้ขาดสิ้นกวีศรี
เถื่อนไศลผาวนาลีคงค่าหมอง
ไร้ซึ่งกวีรจนาแปรค่าทอง
อย่างช่ำชองชวนพินิจพิสดาร

หากโลกนี้ขาดสิ้นกวีศรี
มหานทีชเลสินธุ์คงสิ้นสาส์น
ไร้ซึ่งกวีแปรถ้อยร้อยพจน์กานท์
เพื่อขับขานบึ้งวิญญาณชลาลัย

หากโลกนี้ขาดสิ้นกวีศรี
ท้าวสุรีย์คงหม่นสิ้นสูรย์สาย
ไร้ซึ่งกวีด่ำดื่มแสงเช้ากราย
อีกแดดบ่ายเคลื่อนขับย่ำอัสดง

หากโลกนี้ขาดสิ้นกวีศรี
ม่านราตรีเดือนดวงคงหลับหลง
ไร้ซึ่งกวีเตือนย้ำ ข้างขึ้น-แรมลง
ทิ้งดาริกาเฝ้าโยงอยู่ดายเดียว

หากโลกนี้ขาดสิ้นกวีศรี
เคียวรุ้งคงทอสันสีฝืนห่อเหี่ยว
ไร้ซึ่งกวีปลอบประโลมและยาเยียว
เมฆคงเศร้าเปล่าเดี่ยวไม่แผกกัน

หากโลกนี้ขาดสิ้นกวีศรี
พงศ์สกุณีแมลงไพรคงโศกศัลย์
ไร้ซึ่งกวีนั่งสดับสำเนียงจำนรรจ์
วิหคก็พลันงดบรรเลงมโหรีไพร

หากโลกนี้ขาดสิ้นกวีศรี
ความจริง-ความงาม-ความดี อยู่ไฉน
ไร้ซึ่งกวีแปรค่ามาวางราย
คงหล่นหายจมเท้าจ้าวโลกีย์ฯ

สนอง เสาทอง
8 กุมภาพันธ์ 56
อินทามระ 10

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, Thammada, D, จารุทัส, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 มีนาคม 2013, 08:21:PM โดย choy » บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s