มีหนักบ้าง บางเบา ที่เรารู้
อุตส่าห์สู้ เส้นทาง ต่างขัดเขิน
อาจหลง-ล้า และสับสน บนทางเดิน
ช่วงเผชิญ สู่ฝัน ของวันวัย
ความเป็นอื่น คืนกลับ การรับรู้
วนเวียนอยู่ ย่ำคิด ความชิดใกล้
ทอดสายตา สามารถ อาจเข้าใจ
ทางที่ไร้ แรงตื่น เคยยืนยัน
ดอกหญ้า ยังพลิ้วไหว ในลมหนาว
คอยส่งข่าว คนหลงทาง กลางความฝัน
บอกความจริง อิงอ้าง ระหว่างวัน
ว่าผกผัน เพียงใด ไม่ยั่งยืน
ข้างขึ้น แรมลงบ้าง อยู่อย่างนี้
เพื่อให้มี มุ่งมั่น และวันตื่น
เป็นแรงใจ ใฝ่ฝัน กับวันคืน
ให้เราฝืน เราฝ่า..ชะตาตน
" ผมเขียนแบบคิดต่อจากท่านShumbalaนะครับ
น่าจะประมาณนี้หรือเปล่า "
ธรรมดา
เดินทีละก้าว กินข้าว ทีละคำ
ดื่มด่ำ ปัจจุบันกาล ผ่านสับสน
ปล่อยวาง การผันเปลี่ยน ที่เวียนวน
ความคิด ล่วงพ้น ไยยึดโยง
เพียงมองดู ต้นไม้ ภายในสวน
หยุดปรุงแต่ง รบกวน กลับโปร่งโล่ง
ในสัมผัส บริสุทธิ์ ที่ผุดโพลง
จักจรรโลง จิตเดิมแท้ ไร้แปรปรวน
วันวาน ลับหาย ดังตายจาก
สิ้นซาก คืนวัน แสนปั่นป่วน
วันรุ่ง พรุ่งนี้ ที่เรรวน
แล้วแค่ล้วน ความฝัน อันมายา
ตื่นรู้ อยู่ใน ปัจจุบันขณะ
คือชีวิต อมตะ ตามใฝ่หา
สรรพสิ่ง งดงาม คระการตา
ปาฏิหาริย์ การตื่น อันชื่นบาน
*****
ดื่มด่ำ ปัจจุบันกาล ผ่านสับสน
ปล่อยวาง การผันเปลี่ยน ที่เวียนวน
ความคิด ล่วงพ้น ไยยึดโยง
เพียงมองดู ต้นไม้ ภายในสวน
หยุดปรุงแต่ง รบกวน กลับโปร่งโล่ง
ในสัมผัส บริสุทธิ์ ที่ผุดโพลง
จักจรรโลง จิตเดิมแท้ ไร้แปรปรวน
วันวาน ลับหาย ดังตายจาก
สิ้นซาก คืนวัน แสนปั่นป่วน
วันรุ่ง พรุ่งนี้ ที่เรรวน
แล้วแค่ล้วน ความฝัน อันมายา
ตื่นรู้ อยู่ใน ปัจจุบันขณะ
คือชีวิต อมตะ ตามใฝ่หา
สรรพสิ่ง งดงาม คระการตา
ปาฏิหาริย์ การตื่น อันชื่นบาน
*****
*ขอบคุณท่านThammada ที่ร่วมสนุกครับ
ที่ท่านเขียนมาไพเราะ ลึกซึ้ง ถึงธรรมชาติ อันธรรมดาแล้วละครับผม+