คิดคิดเอาเปล่าเปลี่ยวอยู่เดียวดาย
ค้างค้างไว้มุ่งสานไม่ผ่านศักดิ์
คอยคอยใจคอยหายไม่ทายทัก
จำจำจักอ้างว้างเหมือนอย่างเคย
เงียบเงียบเหงาเจ่าจุกจะลุกตื่น
หงอยหงอยฟื้นพริ้มตาคาเขนย
ง่วงง่วงงุดสุดห้ามเลยตามเลย
งำงำคำอภิเปรยเอ่ยรำพัน
รอนรอนแสงสุริยันลับบรรพต
รินรินกลิ่นปรากฏมิ่งบุหลัน
ริมริมปริ่มขอบฟ้าพนาวัน
แรมแรมใต้แสงจันทร์เพียงเสี้ยวดวง
ชื่นชื่นคืนหนึ่งนั้นนางแนบเนื้อ
ซึ้งซึ้งต่างโอบเอื้อแอบอิงสรวง
ซ้ำซ้ำเชยแนบชิดสนิททรวง
กึ่งกึ่งประหนึ่งห้วงสวรรค์พรหม
เนิน จำราย
ค้างค้างไว้มุ่งสานไม่ผ่านศักดิ์
คอยคอยใจคอยหายไม่ทายทัก
จำจำจักอ้างว้างเหมือนอย่างเคย
เงียบเงียบเหงาเจ่าจุกจะลุกตื่น
หงอยหงอยฟื้นพริ้มตาคาเขนย
ง่วงง่วงงุดสุดห้ามเลยตามเลย
งำงำคำอภิเปรยเอ่ยรำพัน
รอนรอนแสงสุริยันลับบรรพต
รินรินกลิ่นปรากฏมิ่งบุหลัน
ริมริมปริ่มขอบฟ้าพนาวัน
แรมแรมใต้แสงจันทร์เพียงเสี้ยวดวง
ชื่นชื่นคืนหนึ่งนั้นนางแนบเนื้อ
ซึ้งซึ้งต่างโอบเอื้อแอบอิงสรวง
ซ้ำซ้ำเชยแนบชิดสนิททรวง
กึ่งกึ่งประหนึ่งห้วงสวรรค์พรหม
เนิน จำราย
หมายเหตุ บทที่ ๓ ต่อครูกานต์ฯ
๒ ต่อคุณนพ
๑ ต่อหนูแซม (เพิ่มเติม ๒ ครั้ง)