หม่ำจนเกลี้ยง เที่ยงนอน วอนเมตตา
.............................
พเนจร หมอนหมิ่น อดกินมื้อ
แถมด้านดื้อ ชีพขาด วาสนา
ไร้คนแล แก่จัด อยู่วัดวา
ด้วยเคหา ผุพัง หลังคาโทรม
หลายวันเดิน เผชิญโชค ในโลกกว้าง
สองฟากทาง พบทราม ความขื่นขม
เจอร้ายกร่อน ทอนสุข ทุกข์ระทม
แทรกอารมณ์ จมดึก ลึกก้นมาน
น้อมเพียรธรรม นำถ่อ หมายก่อกู้
ผ่านฤดู ยังแยก แตกฟุ้งซ่าน
พร่ำสวดมนต์ ดลจิต พินิจฌาน
สยบมาร ผลาญเผา เศร้าฤดี
มิสามารถ อาจควบ รวบใจนิ่ง
กิเลสวิ่ง ริดรอน ตัดตอนศรี
ร่างสะบัด หยัดยืน พื้นธุลี
ล่วงราตรี กี่หนาว ไร้สาวคลอ
โหนสี่ล้อ ต่อเรือ เหนือลงใต้
หวังจะได้ กอดรัก สักคนหนอ
ถึงกินจุ ลุเที่ยง คงเลี้ยงพอ
นวลละออ- ไป่เบื่อ เชื่อพี่ยา..นะจ๊ะ
รพีกาญจน์
ขอบคุณอ้าย ใจดี บ่มีหยาม
ตักแสนงาม ยามนี้ กราบทีหนา
มีความสุข คลุกใน ใส่วิญญา
เปิ้นเมตตา ปรานี มิรู้คลาย
ชายทำดี ปีเดียว ไยเลี้ยวลด
ปล่อยให้อด จดยัน อันไหนจ่าย
มิพาเที่ยว เคี่ยวงาน พานวุ่นวาย
เคยสบาย กลายกลับ รับมิทัน
ไข่ต้มฟอง กองข้าว ขาวบานเบอะ
ดูเอาเถอะ ผิดต่าง อย่างที่ฝัน
เช้าจรดเย็น เข็ญขู่ อยู่ทั้งวัน
ตกคืนหัน หลังให้ ไม่สนเรา
ตักแสนงาม ยามนี้ กราบทีหนา
มีความสุข คลุกใน ใส่วิญญา
เปิ้นเมตตา ปรานี มิรู้คลาย
ชายทำดี ปีเดียว ไยเลี้ยวลด
ปล่อยให้อด จดยัน อันไหนจ่าย
มิพาเที่ยว เคี่ยวงาน พานวุ่นวาย
เคยสบาย กลายกลับ รับมิทัน
ไข่ต้มฟอง กองข้าว ขาวบานเบอะ
ดูเอาเถอะ ผิดต่าง อย่างที่ฝัน
เช้าจรดเย็น เข็ญขู่ อยู่ทั้งวัน
ตกคืนหัน หลังให้ ไม่สนเรา
"ดิน"