-พละ๕ คือ ศรัทธา, ปัญญา, ความเพียร, สมาธิ, สติ
-อินทรวิเชียรฉันท์๑๑
๐น้อมธรรมะบรรยาย อภิปรายประโยชน์ชนม์
เพื่อพบประสพผล ชนะจิตพิชิตชัย
๐ข้าน้อยดนูนำ พละธรรมพระจอมไตร
แจกแจงแสดงไว้ มิตระพึงพินิจเทอญ
๐ศรัทธาประการหนึ่ง มติซึ่งเจริญเดิน
เทิดธรรม์และสรรเสริญ นฤผู้ประเสริฐศรี
๐หากเพียงระวังตน จิตล้นฤดีมี
ศรัทธาลุเกินปรี- ดิประหนึ่งจะดึงลง
๐จึงต้องผลิปัญญา คุณค่าประคองตรง
กันไว้มิให้หลง นยะพัทธะศรัทธา
๐ปัญญาสว่างเกิน ก็จะเพลินอหังการ์
คู่ธรรมะศรัทธา บริบูรณ์จรูญจริง
๐พากเพียระเกียรติ์ไกร ฐิติไว้วิภาสพิง
สำเร็จน่ะทุกสิ่ง ชยะได้เพราะความเพียร
๐หากครั้นขยันยิ่ง กิจวิ่งมิเว้นเวียน
ฟุ้งซ่านสะท้านเพี้ยน เพราะสมองสะเทือนโถม
๐จึงนำสมาธิ์คู่ ชระชูเฉลิมโฉม
หมายมุ่งพยุงโทรม นิเคราะห์เพียระตึงเกิน
๐หากแม้นสมาธิ์มาก จิตอยากจะนิ่งเพลิน
เกียจคร้านประสมเกิน ละเจริญพิจารณ์ธรรม์
๐เพียรจึงจะควรเคียง เฉพาะเพียงสมาธิ์นั้น
อย่าตึง ฤ หย่อนขัน- ธะริหลงระเริงหลุม
๐ทั้งสี่พระธรรมมี สติที่พยุงคุม
ทวนนึกระลึกมุม มรคาสง่าอิน-
๐ทรีย์ซึ่งพลังใส ประจุไว้ประจำจินต์
ย่อมดลชโยสิ้น- มสิเข้าประหัตหาญ(๓๙๓)
เมื่อพศ.๒๕๔๘ ผมได้มีโอกาสไปวัดนาหลวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
พระกัมมัฏฐานท่านเทศนาธรรมที่ชื่อว่าพละ๕ให้ฟังเป็นธรรมที่ถ้ามีในใจใครแล้ว จะทำให้จิตใจมีกำลังทำสิ่งใดก็สำเร็จ
-ศรัทธา (ถ้ามีมากเกินไปจะทำให้โง่ จึงต้องมีปัญญาควบคู่เสมอ)
-ปัญญา (ถ้ามากเกินไป จะทำให้มีอัตตาสูงเกินควร จึงต้องมีศรัทธาควบคู่)
-ความเพียร(มากเกินไปทำให้ฟุ้งซ่าน จึงต้องมีสมาธิกำกับ)
-สมาธิ(มากเกินไปทำให้เป็นคนเกียจคร้าน จึงตองควบคู่กับความเพียร)
โดยทั้งหมดต้องใช้สติระลึกรู้ตัวอยู่เสมอ ว่าภาวะจิตใจเราเป็นเช่นไร
ผมจึงถือโอกาสมาเล่าสู่มวลมิตรทุกท่านฟังอีกครั้งครับ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
25 พฤศจิกายน 2024, 07:55:AM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: เชิญบ้าง.......เชิญแต่งฉันท์พันบท......โดยใช้เวลาสักสิบปีน่าจะพอ (อ่าน 209732 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: