รัตติกาลผ่านเยือนเดือนเด่นฟ้า
เมฆหม่นทาเงาทาบเข้าอาบไล้
พิศนภาแม้งามกว่างามใด
หากฤทัยไยพรำ่คำนึงครวญ
เปรียบเธอเป็นเช่นจันทราราตรีนี้
ทอแสงเพียงริบหรี่ฤดีป่วน
ด้วยเสน่ห์นงเยาว์อันเย้ายวน
ใคร่เชื้อชวนจงสถิตย์ในจิตชาย
เมฆหม่นทาเงาทาบเข้าอาบไล้
พิศนภาแม้งามกว่างามใด
หากฤทัยไยพรำ่คำนึงครวญ
เปรียบเธอเป็นเช่นจันทราราตรีนี้
ทอแสงเพียงริบหรี่ฤดีป่วน
ด้วยเสน่ห์นงเยาว์อันเย้ายวน
ใคร่เชื้อชวนจงสถิตย์ในจิตชาย
เกรงเล่ห์กล คนกวี มีรักเหลือ
เอาไว้เผื่อ เบื่อปอง สำรองจ่าย
หยอดคารม คมหวาน มานละลาย
เป็นของตาย หน่ายแหนง แปลงเปลี่ยนไป
ชายชาตรี สีกุหลาบ สุดซาบซึ้ง
ภมรคลึง พะยอม ตอมดอกใหม่
กลีบดอกร่วง พวงผกา เขาลาไกล
สิ้นสดใส ไร้สดสวย พี่ฉวยเมิน
เอาไว้เผื่อ เบื่อปอง สำรองจ่าย
หยอดคารม คมหวาน มานละลาย
เป็นของตาย หน่ายแหนง แปลงเปลี่ยนไป
ชายชาตรี สีกุหลาบ สุดซาบซึ้ง
ภมรคลึง พะยอม ตอมดอกใหม่
กลีบดอกร่วง พวงผกา เขาลาไกล
สิ้นสดใส ไร้สดสวย พี่ฉวยเมิน
"ดิน"
ราตรีนี้เดือนเพ็ญเร้นเมฆหม่น
ต้องเวทย์มนต์กลใดให้ขัดเขิน
สายลมพัดแผ่วพามาหยอกเอิน
จงเพลิดเพลินพรมพลิ้วในริ้วลม
ตราบเดือนเพ็ญมิเร้นแสงสิ้นแรงส่อง
พระพายจะตระกองกอดให้สม
รัตติกาลหวานชื่นพึงรื่นรมย์
ร่วมเชยชมสมสุขทุกราตรี
ต้องเวทย์มนต์กลใดให้ขัดเขิน
สายลมพัดแผ่วพามาหยอกเอิน
จงเพลิดเพลินพรมพลิ้วในริ้วลม
ตราบเดือนเพ็ญมิเร้นแสงสิ้นแรงส่อง
พระพายจะตระกองกอดให้สม
รัตติกาลหวานชื่นพึงรื่นรมย์
ร่วมเชยชมสมสุขทุกราตรี