หากจะเปรียบคนแต่งกลอนเป็นเหมือนผู้ผลิตสินค้า สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการแต่งกลอนก็คือ
๑.ความสุขใจ,ความพอใจของผู้อ่าน ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนกับผู้บริโภคที่มาซื้อสินค้าของเรา
๒.ความสุขใจ,ความพอใจของเพื่อนนักกลอนด้วยกัน ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนผู้ผลิตสินค้าด้วยกันแต่ต่างแบรนด์
ซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าของเราด้วย หรือไม่บางทีก็อาจจะเป็นคู่แข่ง,ศัตรูทางการค้า
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราแต่งกลอนเพื่อจะเอาใจใคร คนอ่านหรือว่านักกลอน
......................................
"ช่วงนี้ไม่ว่าง๑"
.........................................
ถ้าแทนที่จะมีแต่การต่อกลอนจากนักกลอนด้วยกันมาเป็นการคอมเม้นท์จากผู้อ่านที่เป็นผู้อ่านจริงๆที่ไม่ใช่กากีนั้งคิดว่าน่าจะเพิ่มเชื้อไฟให้ลุกโพลงขึ้นมาได้
.........................................
"ช่วงนี้ไม่ว่าง๒"
สมันยังเป็นหนุ่มมาก ชอบแต่งกลอนหวาน กลอนเพ้อ กลอนอกหัก
อยากให้ "คนนั้น" อ่าน และชมเชย แต่ที่เป็นจริงก็คิอ "เขียนเอง อ่านเอง เออเอง"
เลิกเขียนกลอนไป ๒๐ ปี เพราะไม่มีคนอ่าน ไม่มีเวทีชก หมดไฟ แถมไม่มีเชื้อ
จากนั้นถูกสะกิดให้คืนชีพ (โดยบังเอิญ) อีก ๒-๓ ปี แล้วก็หยุดไปอีก (อกหักอีก)
เพิ่งกลับมาชกที่เวทีนี้ เมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง เพราะเห็นคนดูแยะ ปี่กลองระทึกใจ
เหตุที่กลับมาครั้งนี้เพราะมีเพื่อนรัก (อยู่สังเวียนอื่น) ร่วมคุยด้วยเขียน (กลอน) ด้วย
เรียกว่าคุยกันเรื่องกลอนจนค่อนคืน ก็ว่าได้ อ้อ... เป็นเพื่อนสมัยเรียนหนังสือน่ะ
และการชก season นี้ อาจจะเป็นการชกฤดูกาลสุดท้ายในชีวิตผม.... ก็เป็นได้!
มาคราวนี้ความรู้สึกปรับเปลี่ยนไปแยะ
ที่คุณช่วงฯ กล่าวว่า
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการแต่งกลอนก็คือ ๑.ความสุขใจ,ความพอใจของผู้อ่าน
ในความรู้สึกของผม กลับกลายเป็นว่า ผมมีความสุขที่ได้เขียนสิ่งที่ผมอยากเขียน (จบ)
และหากจะมีต่อ (แน่ละ! อันดับ ๒) มีโอกาส "สื่อ" สิ่งที่เขียนแก่ใครก็ได้ที่อยาก "เสพ" มัน
อันดับ ๑ ของคุณช่วงฯ จึงเป็นอันดับ ๓ ของผม (ขออภัย มิได้ดิสเครดิต หรือบลัฟฟ์ กันนะครับ)
ส่วนจะขายดิบขายดี หรือขายไม่ออกกองในสต๊อคใต้ถุนบอร์ด ผมแทบจะไม่สนใจครับ
ขอบคุณที่ให้โอกาสนักมวยฤดูกาลชกสุดท้าย ได้จับไมค์ระหว่างพักยก
(แม้ผู้ชมส่วนใหญ่กำลังเพลิดเพลินกับ พริตตี้ ที่ถือป้ายบอกยกบนเวที ก็ตามเถอะ)
นี่ถ้าไม่มี quote ที่ ๒ ของคุณช่วงฯ ผมคงไม่กล้ารับไมค์นะเนี่ย เหอ! เหอ!
อายุบวร* ครับ
*อายุบวร เป็นคำทักทายกันของชาวศรีลังกา ทำนอง "สวัสดี" ของไทย
ผมชอบคำนี้มาก ใช้ทักทายกับเพื่อนสนิทบางคนจนติดปาก และติดท้ายเมล์เสมอๆ