นภาพร่าง ถ่างตา ทุกครานับ
ไม่เคยหลับ ได้ลง ยังคงหนาว
ทุกเรื่องรส บทบาท ชีวาตม์วาว
มีแต่ข่าว ร้าวรุก ซุกซอกใจ
แม้วันคืน กลืนกล้ำ ให้ช้ำชอก
ตามย้อนยอก ตอกเจ็บ เหน็บไม่ไหว
ถึงมีแสง แรงหม่น ทนท้อไป
ขาดแรงใจ ไร้คู่ อยู่เดียวดาย
จะแข็งขืน ยืนหยัด ยิ่งมัดแน่น
ใจร้าวแสน แท่นทับ รับว่าหน่าย
เฝ้าครวญคร่ำ ร่ำหา พาเร้นกาย
ยังมิวาย คล้ายกลุ้ม สุมในทรวง
ให้เงียบเหงา วังเวง เคว้งคว้างจิต
ขาดคู่คิด มิตรรัก ชักเป็นห่วง
เหลือบตาแล ไร้ซึ่ง ถึงแดดวง
กมลกลวง ล่วงลับ กลับแพดาว
พันทอง
เพียงหรี่ตาก็พอลออนัยน์
อย่าหลับใหลชโลมชมโคมหนาว
ที่ระยิบแพทองท้องฟ้าพราว
พลุสกาวเด่นมาสวิลาสเรือง
ใยคืนวันชื่นฉ่ำ กลับช้ำชอก
หรือเย้าหยอกพลุรุ้งจนฟุ้งเฟื่อง
แสงไสวแยงตาคงคาเคือง
ท้องฟ้าเมืองนาครซ่อนอุ่นไอ
ควรยิ้มแย้มแช่มชื่นคืนวิจิตร
จากโคมแพนิรมิตให้จิตไหว
จุดโคมลอยแพกาญจน์แทนธารใจ
สานสายใยละมุนอบอุ่นทรวง
ใช่ขาดมิตรชิดใกล้กระไรอยู่
เพียงโฉมตรูใจเย็นมิเป็นห่วง
โคมไสวแทนใจไว้ทุกดวง
จะโชติช่วงดุจแด ด้วยแพดาว..
รการตติ