ถ้าหากความขมขื่นสะอื้นไห้
เปรียบดังก้อนหินใหญ่ถ่วงใจฉัน
จะไปถึงลำโขงที่โค้ง,ชัน
แล้วโยนมันลงไปให้ลับตา
อยากเอาความขมขื่นลงใส่ขวด
แล้วนั่งดวดสะใจคนไร้ค่า
ใส่น้ำแข็งผลุบโผล่พร้อมโซดา
รินลงมา รินลงมา ข้าจะกิน
จะกินเหล้าเผากลุ้มที่สุมอก
น้ำตาตกภายในยังไม่สิ้น
อยากจะกลั่นน้ำใจที่ไหลริน
ลืมยุพินริมโขงที่โค้งไกล
โอ้แม่โขงน้ำไหลช่างไกลนัก
ข้าอกหักรักขมระทมไหม้
เอาใส่ขวดขมขื่นบนผืนใจ
ผสมไปแล้วดื่มเพื่อลืมเธอ
“ไพร พนาวัลย์”
ดื่มในกลอนเท่านั้น ตัวจริง หยุดเหล้าเข้าพรรษา รักษาอกหัก
[/
โอ้แม่โขง โค้งไกล ช่างไหลนัก
ฉันยังรัก ยังหวง ห่วงเสมอ
ทุกคืนวัน นอนฝัน รำพันเพ้อ
อยากพบเธอ สักครั้ง ยังเฝ้าคอย
โอ้แม่โขง โค้งไกล ไหลไปหา
บอกกานดา ทุกวัน ฉันเหงาหงอย
นั่งเหม่อมอง ท้องฟ้า น้ำตาปรอย
ปล่อยใจลอย คอยเก้อ เธอไม่มา
โอ้แม้โขง โค้งไกล ไหลคดเคี้ยว
ใจเธอเลี้ยว เคี้ยวไป ถึงไหนหนา
ฉันลงเรือ ลำน้อย ลอยนาวา
เที่ยวตามหา กานดา มาแสนไกล
โอ้แม้โขง โค้งไกล วอนไหว้หนา
ฉันตามหา ไม่เจอ เธออยู่ไหน
โปรดจงคืน กานดา มาไวไว
อย่าปล่อยให้ คอยเก้อ เพ้อคร่ำครวญ
ชลนา ทิชากร
ฉันยังรัก ยังหวง ห่วงเสมอ
ทุกคืนวัน นอนฝัน รำพันเพ้อ
อยากพบเธอ สักครั้ง ยังเฝ้าคอย
โอ้แม่โขง โค้งไกล ไหลไปหา
บอกกานดา ทุกวัน ฉันเหงาหงอย
นั่งเหม่อมอง ท้องฟ้า น้ำตาปรอย
ปล่อยใจลอย คอยเก้อ เธอไม่มา
โอ้แม้โขง โค้งไกล ไหลคดเคี้ยว
ใจเธอเลี้ยว เคี้ยวไป ถึงไหนหนา
ฉันลงเรือ ลำน้อย ลอยนาวา
เที่ยวตามหา กานดา มาแสนไกล
โอ้แม้โขง โค้งไกล วอนไหว้หนา
ฉันตามหา ไม่เจอ เธออยู่ไหน
โปรดจงคืน กานดา มาไวไว
อย่าปล่อยให้ คอยเก้อ เพ้อคร่ำครวญ
ชลนา ทิชากร