เพียงแค่ชำเลืองมองในความสวย
ใจที่ป่วยดีขึ้นในยามเผลอ
แต่มองดูคู่เขาใจเราเบลอ
จึงมิอาจเพ้อเจ้อละเมอครวญ
ของของใครใครหนอเขาก็รัก
เป็นสุขนักพักใจอย่าให้ห้วน
ไม่ขอเป็นก้างขวางคอเข้าก่อกวน
แม้เชิญชวนเพียงใดจะไม่ทำ
เขาก็รักของเขาเฝ้าแหนหวง
มิอาจล่วงพ่วงใจให้ถลำ
มิอาจเข้าหยามหยาบเกรงบาปกรรม
เพียงเพ้อพร่ำคำพ้อก็พอแล้ว
เผื่อว่าเรามีรักกับเขาบ้าง
ยามเคียงข้างสดใสดั่งได้แก้ว
คงสุขใจจริงหนอไม่ขอแจว
ใครแหวกแนวมาชิง เดี๋ยวยิงเลย
“ไพร พนาวัลย์”
ถ้ารกหญ้า รกพง รกดงไม้
ยังถางให้ เตียนได้ ง่ายจริงเอ๋ย
แต่เจอคน รกโลก โศกจังเลย
เขาไม่เคย มีใจ ให้กับเรา
เราหลงเล่ห์ กลรัก ถักทอฝัน
หลงคำมั่น สัญญา พาใจเศร้า
หลงใหลรูป จูบกระดาษ วาดเป็นเงา
หลงรักเขา ข้างเดียว เหี่ยวแห้งใจ
ทั้งความรัก ทั้งแค้น แน่นในอก
หาปืนพก สักบอก ซอกซุกใส่
ถ้าหากเจอ หน้าเธอ เผลอเมื่อใด
จะลั่นไก ให้หมดแม็ก แหกอกพรุน
รกหญ้า รกพง รกดงไม้
แล้งน้ำใจ ไมตรี ที่เกื้อหนุน
ไม่มีจิต เมตตา เกื้อการุณย์
โดนกระสุน สักแถว แล้วหายกัน
ชลนา ทิชากร
ยังถางให้ เตียนได้ ง่ายจริงเอ๋ย
แต่เจอคน รกโลก โศกจังเลย
เขาไม่เคย มีใจ ให้กับเรา
เราหลงเล่ห์ กลรัก ถักทอฝัน
หลงคำมั่น สัญญา พาใจเศร้า
หลงใหลรูป จูบกระดาษ วาดเป็นเงา
หลงรักเขา ข้างเดียว เหี่ยวแห้งใจ
ทั้งความรัก ทั้งแค้น แน่นในอก
หาปืนพก สักบอก ซอกซุกใส่
ถ้าหากเจอ หน้าเธอ เผลอเมื่อใด
จะลั่นไก ให้หมดแม็ก แหกอกพรุน
รกหญ้า รกพง รกดงไม้
แล้งน้ำใจ ไมตรี ที่เกื้อหนุน
ไม่มีจิต เมตตา เกื้อการุณย์
โดนกระสุน สักแถว แล้วหายกัน
ชลนา ทิชากร