เรียงร้อยถ้อย ด้อยดุ่ม เพียงสุ่มส่ง
พี่ก็คง มิอ่าน ผ่านเลยหนี
จึงมาอ้อน วอนวาน ขานวจี
หวังพี่นี้ ตรึงใจ ต้องนัยน์ตา
เห็นพี่ชม กลอนชื่น นั่งขื่นจิต
เฝ้าลิขิต อักษร หวังวอนว่า
เพียงสักครั้ง อ้อนพี่ ซึ้งชีวา
หลงหลั่นล้า มาปอง จึงลองดู
พี่ก็คง มิอ่าน ผ่านเลยหนี
จึงมาอ้อน วอนวาน ขานวจี
หวังพี่นี้ ตรึงใจ ต้องนัยน์ตา
เห็นพี่ชม กลอนชื่น นั่งขื่นจิต
เฝ้าลิขิต อักษร หวังวอนว่า
เพียงสักครั้ง อ้อนพี่ ซึ้งชีวา
หลงหลั่นล้า มาปอง จึงลองดู
ถ้าให้ดินตอบเป็นโคลงก็..สิ้นปีถึงได้อ่าน
"ดิน"
(งั้นเดี๋ยวพี่จะลองแต่งกลอนที่สามารถอ่านเป็นโคลงได้นะ. อิอิอิ เหมือนที่หลายๆท่านในนี้เคยร่วมสนุกกันมาก่อนน่ันแหละ)
รักร่ำร่ำ เร่งเร้า เฉลาลักษณ์
เพราะซาบซึ้ง ถึงภักดิ์ พิทักษ์สู้
คืนวันผ่าน แม้นหนัก ประจักษ์พธู
แลอยู่คู่ เคียงข้างรู้ อยู่ทั้งนิรันดร์
ขวัญจึงมั่น แต่งถ้อย ประดอยถึง
เพียงนุชหนึ่ง รักพึง พิพัฒน์ปั้น
แม้กลอนกร่อย ด้อยดึง ประหนึ่งควัน
เอยเอ่ยอรรถ รักมีนั้น ย่อมชั้นดาว
เดือนเพ็ญผ่อง เคลื่อนคู่คล้อง ทำนองรัก
เอยสลัก ส่งใจ ว่าลองป่าว
ร้องว่ารัก ระรื่น ชื่นสองพราว
กล่อมกลอนข่าว ส่งถึงน้อง ว่าพร้อมรักเธอ
(ลงสิบพยางค์ในหลายวรรคไม่ค่อยสวยเลยเนาะ)
จากกลอนเป็นโคลง
รักร่ำร่ำเร่งเร้า เฉลาลักษณ์
เพราะซาบซึ้งถึงภักดิ์ พิทักษ์สู้
คืนวันผ่านแม้นหนัก ประจักษ์ พธูแล
อยู่คู่เคียงข้างรู้ อยู่ทั้งนิรันดร์
ขวัญจึงมั่นแต่งถ้อย ประดอยถึง
เพียงนุชหนึ่งรักพึง พิพัฒน์ปั้น
แม้กลอนกร่อยด้อยดึง ประหนึ่ง ควันเอย
เอ่ยอรรถรักมีนั้น ย่อมชั้นดาวเดือน
เพ็ญผ่องเคลื่อนคู่คล้อง ทำนอง รักเอย
สลักส่งใจว่าลอง ป่าวร้อง
ว่ารักระรื่นชื่นสอง พราวกล่อม
กลอนข่าวส่งถึงน้อง ว่าพร้อมรักเธอฯ