๐บทกลอนรักพรักพร้อม เพียงใด
ไป่ประทับทรวงใน เนื่องถ้อย
ศัพท์ฉวีเฉิดไฉไล พจน์ผ่อง
แต่เล่ห์ลวงรักคล้อย กลับกล้ำรักขม
๐เพลินภิรมย์คู่แท้ คนึงถึง
หวงห่วงดูแลจึง แจ่มแจ้ง
เปลี่ยวเหงาโศกเศร้าพึง ประคองปลอบ
ร้อยบทกลอนกร่อนแล้ง รักนี้ยังยวน
๐จึงชวนชงชิดช้อย โฉบรัก
ด้วยกิจอันประจักษ์ กว่าฟุ้ง
อวัจนะภาษณ์สลัก ทรวงสนิท สวาทนา
รอยรักดั่งรอยรุ้ง รจิตล้วนเลยวจีฯ
(ขออนุญาตน้องดินและมวลมิตรทุกท่านต่อกระทู้ด้วยโคลงนะครับ ช่วงนี้คิดกลอนไม่ออก)
เรียงร้อยถ้อย ด้อยดุ่ม เพียงสุ่มส่ง
พี่ก็คง มิอ่าน ผ่านเลยหนี
จึงมาอ้อน วอนวาน ขานวจี
หวังพี่นี้ ตรึงใจ ต้องนัยน์ตา
เห็นพี่ชม กลอนชื่น นั่งขื่นจิต
เฝ้าลิขิต อักษร หวังวอนว่า
เพียงสักครั้ง อ้อนพี่ ซึ้งชีวา
หลงหลั่นล้า มาปอง จึงลองดู
พี่ก็คง มิอ่าน ผ่านเลยหนี
จึงมาอ้อน วอนวาน ขานวจี
หวังพี่นี้ ตรึงใจ ต้องนัยน์ตา
เห็นพี่ชม กลอนชื่น นั่งขื่นจิต
เฝ้าลิขิต อักษร หวังวอนว่า
เพียงสักครั้ง อ้อนพี่ ซึ้งชีวา
หลงหลั่นล้า มาปอง จึงลองดู
ถ้าให้ดินตอบเป็นโคลงก็..สิ้นปีถึงได้อ่าน
"ดิน"