หมอกจาง
สภาวะระหว่างทางเลือนรางเสมอ
ทุกสัมผัสคล้ายแจ่มชัดกลับเบือนเบลอ
ดุจภาพเงาเก่าเกร่อ ที่เลอะเลือน
หมอกจาง
ขอบคุณความอ้างว้าง ยังเป็นเพื่อน
กับภาพความชินชา คราวมาเยือน
เปรียบเสมือนเพื่อนใจไม่สร่างซา
หมอกจาง
มองหนทางยาวไกลอย่างช้าช้า
แล้วสัมผัสวูบหนึ่งคล้ายจูบลา
ยากเกินกลั้น น้ำตาเริ่มไหลริน
หมอกจาง
ความฝันทุกอย่างแทบพังสิ้น
แต่ใจรั้นทะนง ขึ้นโผบิน
เพื่อดื่มกินคืนวันอันปวดร้าว
หมอกจาง
ลึกระหว่าง ซอกใจไยเหน็บหนาว
ใต้สัมผัสคืนมองท้องฟ้าพราว
น้ำตากลับร่วงกราว ยามก้าวเดิน
ขอบพระคุณภาพจากอินเตอร์เนตค่ะ
สภาวะระหว่างทางเลือนรางเสมอ
ทุกสัมผัสคล้ายแจ่มชัดกลับเบือนเบลอ
ดุจภาพเงาเก่าเกร่อ ที่เลอะเลือน
หมอกจาง
ขอบคุณความอ้างว้าง ยังเป็นเพื่อน
กับภาพความชินชา คราวมาเยือน
เปรียบเสมือนเพื่อนใจไม่สร่างซา
หมอกจาง
มองหนทางยาวไกลอย่างช้าช้า
แล้วสัมผัสวูบหนึ่งคล้ายจูบลา
ยากเกินกลั้น น้ำตาเริ่มไหลริน
หมอกจาง
ความฝันทุกอย่างแทบพังสิ้น
แต่ใจรั้นทะนง ขึ้นโผบิน
เพื่อดื่มกินคืนวันอันปวดร้าว
หมอกจาง
ลึกระหว่าง ซอกใจไยเหน็บหนาว
ใต้สัมผัสคืนมองท้องฟ้าพราว
น้ำตากลับร่วงกราว ยามก้าวเดิน
ขอบพระคุณภาพจากอินเตอร์เนตค่ะ
หมอกระเหยเลยล่วงพุ่มพวงเศร้า
แล้วใครเล่าจะช่วยปลดให้สดใส
ฟังน้ำคำร่ำรินจากถิ่นใจ
คล้ายปราชัยจากรักที่เฝ้ารอ
มองดูสิเห็นไหมนั่นตะวันแย้ม
ท้องฟ้าแต้มสีสันสิ้นวันท้อ
จงแข็งขืนยืนหยัดเลิกตัดพ้อ
ยิ้มแล้วก็ห้ามใจว่าอย่าอ่อนแอ
เนิน จำราย
แล้วใครเล่าจะช่วยปลดให้สดใส
ฟังน้ำคำร่ำรินจากถิ่นใจ
คล้ายปราชัยจากรักที่เฝ้ารอ
มองดูสิเห็นไหมนั่นตะวันแย้ม
ท้องฟ้าแต้มสีสันสิ้นวันท้อ
จงแข็งขืนยืนหยัดเลิกตัดพ้อ
ยิ้มแล้วก็ห้ามใจว่าอย่าอ่อนแอ
เนิน จำราย