คืนข้างแรมแซมดาวพร่างพราวฟ้า
คิดเห็นหน้านวลแขดั่งแพ้พ่าย
ต้องระทมขมขื่นยืนเดียวดาย
เจ้าโฉมฉายลืมวันเคยสัญญา
ครั้งสองเราเชยชื่นในคืนนั้น
เฝ้ารำพันหวั่นไหวอยู่ในหน้า
ร้องเพลงเคล้าคลอคู่อย่างบูชา
ฝากนภาเป็นพยานถิ่นบ้านไพร
วังตะไคร้ นางรองเคยท่องเที่ยว
เราก้อยเกี่ยวเคียงกันดั่งจันทร์ใกล้
ดวงอาทิตย์ชิดชมรักห่มใจ
มอบฤทัยเพียงนางยามห่างลา
สุดอาวรณ์อาลัยยามไกลห่าง
ใจครวญครางต่างรู้ดั่งภูผา
รักป่าไม้,น้ำตก,นก,ปู,ปลา
หลั่งน้ำตาวันพรากจากดวงมาน
คำสัญญาพร่ำบอกยามออกปาก
ดั่งขอฝากดวงใจที่ใสซ่าน
มอบให้น้องดั่งทรายฝากสายธาร
ดั่งบัวบานบังใบกลางใจเธอ
“ไพร พนาวัลย์”
คืนข้างแรม แย้มเยือน คล้ายเตือนบอก
ว่ารักเรา ไม่หรอก ย้อนยอกเอ่อ
แต่แรกเริ่ม เติมต่อ รอแต่เธอ
บางครั้งเผลอ ฝันใฝ่ ใจคะนึง
แม้เดือนมืด เพียงใด ฤทัยสุข
ไม่เคยทุกข์ สักครั้ง ยามฝันถึง
เสียงเพลงแผ่ว แว่วดัง ฟังตราตรึง
คล้ายประหนึ่ง กล่อมหอ พนอจันทร์
เขื่อนขุนด่าน ม่านหมอก ดั่งฟอกสี
ในฤดี สดใส ไม่เคยหวั่น
สายลมพัด ผ่านหน้า ท้าคืนวัน
หญ้างามนั้น แสนสงบ ไม่รบกวน
นอนกลางคืน ชื่นฉ่ำ ดื่มด่ำจิต
หลับสนิท จันทรา ลอยมาด่วน
รอบด้วยดาว บนฟ้า อุราครวญ
นิทราจวน รุ่งสาง สว่างเยือน
พันทอง