ฟังเสียงเพลงบรรเลงรื่นคืนฟ้าใส
มองแสงจันทร์นวลใยใจลอยว่อน
เติมจังหวะหัวใจให้กระดอน
เคาะร้าวรอนให้หล่นปนวารี
หลังแต่งองค์ทรงเครื่องชำเลืองท่า
ทั้งผมผ้าหน้าหล่อถ่อเต็มที่
ถึงหน้างานเดินชมโฉมวดี
ต่างมากมีรอยยิ้มอิ่มแก้มนวล
มีความสุขน้อยน้อยคอยเหล่สาว
หลายรุ่นราวพราวพริ้มยามยิ้มสรวล
เดินเป็นหมู่คู่กระทงส่งยิ้มชวน
หนุ่มสาวล้วนระริกรื่นชื่นอารมณ์
เรา..ก็นะ..กระทงมีปรี่เดินเดี๋ยว
หลบลดเลี้ยวจากคนสู้ทนข่ม
ไม่อยากให้ใครถามตามมาชม
ด้วยคำตรม..มากับใคร..ไหนไม่มี
กระทงใหม่คนเก่าเฝ้าอธิษฐาน
ลอยดวงมานอันเศร้าของเราหนี
ขอพรพรหมยมแถนแดนฉิมพลี
มอบมาที..ฤดีนาง..คนข้างกาย
...ทำอย่างนี้ทุกปีที่เลยผ่าน
จนเกียจคร้านมานมนคนสลาย
ไม่อยากวอนอ้อนขอต่อถึงปลาย
บทสุดท้าย..หายสิ้น..ทั้งอินทร์พรหม..
มองแสงจันทร์นวลใยใจลอยว่อน
เติมจังหวะหัวใจให้กระดอน
เคาะร้าวรอนให้หล่นปนวารี
หลังแต่งองค์ทรงเครื่องชำเลืองท่า
ทั้งผมผ้าหน้าหล่อถ่อเต็มที่
ถึงหน้างานเดินชมโฉมวดี
ต่างมากมีรอยยิ้มอิ่มแก้มนวล
มีความสุขน้อยน้อยคอยเหล่สาว
หลายรุ่นราวพราวพริ้มยามยิ้มสรวล
เดินเป็นหมู่คู่กระทงส่งยิ้มชวน
หนุ่มสาวล้วนระริกรื่นชื่นอารมณ์
เรา..ก็นะ..กระทงมีปรี่เดินเดี๋ยว
หลบลดเลี้ยวจากคนสู้ทนข่ม
ไม่อยากให้ใครถามตามมาชม
ด้วยคำตรม..มากับใคร..ไหนไม่มี
กระทงใหม่คนเก่าเฝ้าอธิษฐาน
ลอยดวงมานอันเศร้าของเราหนี
ขอพรพรหมยมแถนแดนฉิมพลี
มอบมาที..ฤดีนาง..คนข้างกาย
...ทำอย่างนี้ทุกปีที่เลยผ่าน
จนเกียจคร้านมานมนคนสลาย
ไม่อยากวอนอ้อนขอต่อถึงปลาย
บทสุดท้าย..หายสิ้น..ทั้งอินทร์พรหม..
"บ้านริมโขง"
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕