หนาวเหมันต์ ฝันสลาย เดินฉายเดี่ยว
เห็นกราวเกรียว หนุ่มสาว เย้าหยอกเกร่อ
ก้มมองตัว มัวเขลา เหงาซึมเซอ
ไยมิเจอ คู่บ้าง อ้างว้างจัง
เย็นลมไหว ไหล่ห่อ ตัวงอ.ย่น
ขาดแขนคน ปกป้อง ประคองหลัง
เสียงกระซิบ ข้างกาย อยากได้ฟัง
หมดความหวัง แก่เกิน เขาเมินไกล
รอมานาน แสนนาน ร้าวรานจิต
ฟ้าลิขิต ขีดเขี่ย เนี่ยไฉน
ผ่านหนาวมา หลายปี นี่ยังไง
มีตาไหม เล่าฟ้า ตอบมาที
เห็นกราวเกรียว หนุ่มสาว เย้าหยอกเกร่อ
ก้มมองตัว มัวเขลา เหงาซึมเซอ
ไยมิเจอ คู่บ้าง อ้างว้างจัง
เย็นลมไหว ไหล่ห่อ ตัวงอ.ย่น
ขาดแขนคน ปกป้อง ประคองหลัง
เสียงกระซิบ ข้างกาย อยากได้ฟัง
หมดความหวัง แก่เกิน เขาเมินไกล
รอมานาน แสนนาน ร้าวรานจิต
ฟ้าลิขิต ขีดเขี่ย เนี่ยไฉน
ผ่านหนาวมา หลายปี นี่ยังไง
มีตาไหม เล่าฟ้า ตอบมาที
"ดิน"
หนาวลมหนาว สาวครวญ รัญจวนจิต
ขาดคู่มิตร ชิดอยู่ เฝ้าจู๋จี้
พานโทษดิน โทษฟ้า ไร้ปราณี
คู่ไม่มี อยู่เดียว ก็เปลี่ยวใจ
อยู่คนเดียว เปลี่ยวจิต อย่าคิดหนัก
เรื่องความรัก ความผูกพัน สัมพันธ์ใกล้
ละเอียดอ่อน นักหนา จะว่าไป
ไม่มีใคร ซื้อหา มาผูกพัน
ต้องรอพบ ประสบพักตร์ แล้วทักทาย
รู้ความหมาย คำว่ารัก ประจักษ์มั่น
ใจสองใจ ห่วงหา อาทรกัน
ความรักนั้น จะสดใส ไปนิรันดร์
ชลนา ทิชากร
ขาดคู่มิตร ชิดอยู่ เฝ้าจู๋จี้
พานโทษดิน โทษฟ้า ไร้ปราณี
คู่ไม่มี อยู่เดียว ก็เปลี่ยวใจ
อยู่คนเดียว เปลี่ยวจิต อย่าคิดหนัก
เรื่องความรัก ความผูกพัน สัมพันธ์ใกล้
ละเอียดอ่อน นักหนา จะว่าไป
ไม่มีใคร ซื้อหา มาผูกพัน
ต้องรอพบ ประสบพักตร์ แล้วทักทาย
รู้ความหมาย คำว่ารัก ประจักษ์มั่น
ใจสองใจ ห่วงหา อาทรกัน
ความรักนั้น จะสดใส ไปนิรันดร์
ชลนา ทิชากร