"กลอนของพี่"
กลอนของพี่นี้ฝากออกจากจิต
ยามลิขิตขีดคั่นค่อยผันผ่อน
เพราะเป็นคนบ้านป่าถิ่นนาดอน
เกรงร้าวรอนทรวงในคนไกลกัน
กลอนไม่หวานมานล้าอาจค่าน้อย
เกรงเนื้อกลอยไม่ชอบใส่กรอบคั่น
ใช้ถ้อยคำจำเจียมไม่เทียมทัน
ไม่น่าเก็บไปฝันในวันรอ
กลอนของพี่ขมขื่นไม่ลื่นไหล
เพราะดวงใจหม่นหมองไร้ห้องหอ
มิร่ำรวยเงินทองอย่างเพียงพอ
กลอนพี่จึงทดท้อ..จากมอ.เมีย
บางครั้งกลอนของพี่ดั่งผีบ้า
หัวร่อร่าดั่งคนกมลเปลี้ย
ดั่งถูกฟัดตัดรอนจนอ่อนเพลีย
แต่ชอบเชียร์ “กลอนน้อง” ให้ล่องลอย
“ไพร พนาวัลย์”
กลอนของฉันของพี่ดีทั้งนั้น
ความสัมพันธ์คงไว้อย่าได้ถอย
กลอนของพี่ของฉันดั่งมัน-กลอย
ปรุงรสหน่อยอร่อยล้ำเต็มคำโต
ไม่ต้องหวานซ่านจิตลิขิตเขียน
จะนั่งเทียนเอาบ้างสร้างถ้วยโถ
ใส่กลอย-มันเผือกต้มผสมโชว์
ไร้ซึ่งโบประดับก็วับวาว
"กานต์ฑิตา"
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
อาหารว่างหนึ่งวันนั้นรอดแล้ว
ขาดมันแกวแห้วปอกเนื้อออกขาว
มันเผือกต้มอร่อยลิ้นไร้กลิ่นคาว
ทั้งมะพร้าวคลุกเผื่อเกลือน้ำตาล
อากาศครึ้มฝนฟ้ามาร้องลั่น
ตกทั้งวันลมจัดเริ่มพัดผ่าน
ยังไม่ถึงกำหนดฤดูกาล
สั่นสะท้านหนาวกายหลายวันมา
มีมันต้มร้อนร้อนอยู่ก้นหม้อ
มิรีรอนั่งลงวงซ้ายขวา
คนละหัวสองหัวไม่มั่วนา
สุขอุราลูกทุ่งป้าลุงเรา.
นพ
12พ.ย.55
ขาดมันแกวแห้วปอกเนื้อออกขาว
มันเผือกต้มอร่อยลิ้นไร้กลิ่นคาว
ทั้งมะพร้าวคลุกเผื่อเกลือน้ำตาล
อากาศครึ้มฝนฟ้ามาร้องลั่น
ตกทั้งวันลมจัดเริ่มพัดผ่าน
ยังไม่ถึงกำหนดฤดูกาล
สั่นสะท้านหนาวกายหลายวันมา
มีมันต้มร้อนร้อนอยู่ก้นหม้อ
มิรีรอนั่งลงวงซ้ายขวา
คนละหัวสองหัวไม่มั่วนา
สุขอุราลูกทุ่งป้าลุงเรา.
นพ
12พ.ย.55