อยากจะแต่ง กลอนกานท์ หวานหยดย้อย
คิดเอ่ยถ้อย คำซึ้ง ถึงทุกผู้
แต่ภาษา มิขลัง ยังมิรู้
แค่ปลา-ปลา งู-งู ดูชอบกล
ได้ข่าวพี่ "รพี"ฯ ใจดีนะ
อย่าตีล่ะ เดี๋ยวน้อง จะหมองหม่น
จะมิเถียง เอียงหูฟัง นั่งชิดตน
อยู่สองคน หัดกานท์ ให้หวานที
ยามน้องเมื่อย ขอหนุนตัก พักสักนิด
อย่าเบือนบิด คิดบ่น ล่องหนหนี
เห็นขยับ กระสับ-กระส่าย หน่ายฤดี
หรือกลัวนี่ เมียพี่ ตีกบาล.
คิดเอ่ยถ้อย คำซึ้ง ถึงทุกผู้
แต่ภาษา มิขลัง ยังมิรู้
แค่ปลา-ปลา งู-งู ดูชอบกล
ได้ข่าวพี่ "รพี"ฯ ใจดีนะ
อย่าตีล่ะ เดี๋ยวน้อง จะหมองหม่น
จะมิเถียง เอียงหูฟัง นั่งชิดตน
อยู่สองคน หัดกานท์ ให้หวานที
ยามน้องเมื่อย ขอหนุนตัก พักสักนิด
อย่าเบือนบิด คิดบ่น ล่องหนหนี
เห็นขยับ กระสับ-กระส่าย หน่ายฤดี
หรือกลัวนี่ เมียพี่ ตีกบาล.
"ดิน"
คงเป็นช่วง บ้าชะมัด ฟันกัดลิ้น
อารมณ์สิ้น ไร้รส หมดความหวาน
เข้าบิ๊กซี รี่รื้อ ซื้อน้ำตาล
เทใส่จาน ฝานส้ม จิ้มอมยา
ให้นวลน้อง ตรองตรึก นึกสักนิด
จะเป็นศิษย์ วิกล คนผีบ้า
บัดเดี๋ยวดี มีร้าย ส่ายเข้ามา
เสียเวลา ต่อถ้อย ร้อยประพนธ์
แก่ชรา คราปู่ ครูตกยุค
หนูคราวลูก พิไล ไยมาสน
เห็นเพื่อนชาย หมายจ้อง ปองกมล
แต่ละคน หนุ่มฟ้อ หล่อทุกราย
ละเถิดหนู ปู่ลง ตรงนี้ก่อน
ไปรำฟ้อน สนุก ขลุกสหาย
เขาไม่รัก ภักดี หนีจากกาย
ถึงสุดท้าย คืนกลับ ปู่รับเอง
รพีกาญจน์ 59