กลอนสี่ แต่งต่างกันได้ ๒ แบบ ความแตกต่างอยู่ที่การ ส่งรับสัมผัสระหว่างบท
แบบแรก คำท้ายวรรค ๔ ส่งสัมผัสไป บทใหม่จะรับสัมผัสที่ คำท้ายวรรค ๒ เสมอ
* เหวยเหวยอีจันทรา......ขึ้นหน้าเถียงผัว.................อุบาทว์ชาติชั่ว.......ไสหัวมรึงไป
* นางจันทาเถียงเล่า.......พระองค์เจ้าหลงไหล..........ไล่ตีเมียไย...........พระไม่ปรานี
* เมียผิดสิ่งใด..............พระไล่โบยตี....................หรือเป็นกาลี.........เหมือนที่ขับไป
— บทละครครั้งกรุงเก่า เรื่อง สังข์ทอง
แบบสอง คำท้ายวรรค ๔ ส่งสัมผัสไป บทใหม่จะรับสัมผัสที่ คำท้ายวรรค ๒ เฉพาะบทที่เป็นบท เลขคู่ เท่านั้น
หากเป็นบท เลขคี่ จะรับสัมผัสที่คำท้ายวรรค ๔
* จักกรีดจักกราย.............จักย้ายจักย่อง..................ไม่เมินไม่มอง............ไม่หมองไม่หมาง
* งามเนื้องามนิ่ม..............งามยิ้มงามย่าง.................ดูคิ้วดูคาง................ดูปรางดูปรุง
* ดั่งดาวดั่งเดือน..............ดั่งจะเลื่อนดั่งจะลอย..........พิศเช่นพิศช้อย..........พิศสร้อยพิศสุง
* ช่างปลอดช่างเปรื่อง........ช่างเรืองช่างรุ่ง.................ทรงแดดทรงดุ่ง..........ทรงวุ้งทรงแวง
— กลบทจาตุรงคนายก, ศิริวิบุลกิตติ, หลวงศรีปรีชา (เซ่ง)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
23 พฤศจิกายน 2024, 11:53:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: แนะนำหน่อยครับว่าเป็นกลอน อะไร ครับ ไปเจอ โดยบังเอิญ บนโต๊ะ (อ่าน 2508 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: