มาหนึ่งปีมีกลอนเกือบสี่พัน
สิบกว่ากลอนต่อวันนั่นเชียวหนา
ลุงอยู่เกือบสามปีมีวันล้า
แทบไม่มีน้ำยาจะฝ่าฟัน
คะแนนกลอนร้อนจี๋วิ่งรี่ไหล
บ้านกลอนไทยคึกคักเหล่านักฝัน
ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่วิ่งไล่กัน
เจอ “น้องพัน”แสนสนุกทุกบทกลอน
ชอบที่เธอมีน้ำใจน้องใหม่มอบ
เธอรีบตอบรีบต่อพะนอป้อน
ทั้งแนะนำ,เมตตา,ใส่อาทร
ทั้งออดอ้อนรุ่นพี่ไม่รีรอ
เธอเสมือนสีสันในวันเหงา
เธอเสมือนดั่งเงาคอยเฝ้าหอ
เธอเสมือนดั่งยามตามหยอกล้อ
เธอเสมือนดั่งตอที่ตำตา
เมื่อมาใหม่ใครเขาเฝ้าหมั่นไส้
คนอะไรอีโรติก.ระริก.ซ่า
มีหลังไมค์เข้าถล่ม,ถ่มวาจา
เธอตั้งหน้าเขียนกลอนให้ต้อนตือ
มาบัดนี้,วันไหนไม่เห็นหน้า
ต่างถามหาจ้าละหวั่น “เจ้าพันดื้อ”
หายไปไหนเล่าหนอ,ไม่ออ อือ
พอเห็นชื่อโล่งใจไม่เหงาแล้ว
ขอแสดงความยินดีที่เหนียวแน่น
ให้เหล่าแฟนชาวกลอนไม่นอนแห้ว
เห็น “พันทอง”มองมานัยน์ตาแวว
เชิญมาแจวมาพายรำบายกลอน
“ไพร พนาวัลย์”
ขอบคุณลุง ที่ชม ถล่มให้
เป็นผู้ใหญ่ ใจดี ที่พร่ำสอน
คอยเตือนจิต มิตรรัก มักอาทร
หายร้าวรอน ทุกครั้ง หวังจริงใจ
ด้วยเป็นคน มุ่งมั่น ตั้งแต่เกิด
ถึงไม่เลิศ คิดสู้ เพื่ออยู่ได้
เป็นหญิงแกร่ง แรงฮึด ยึดถือไว้
จึงอยู่ไป ไร้คู่ ด้วยรู้ดี
เก่งเกินไป ชายหนี ฤดีแป้ว
คงไม่แคล้ว แห้วกิน ชินเสียนี่
มีเฮฮา อยู่บ้าง ในบางที
อีโรติก หลีกหลี หนีไม่พ้น
จึงนานา จิตตัง คนชังชอบ
ก็ขอขอบ คุณมาก หากสับสน
ทุกมุมมอง รับรู้ สู้อดทน
ความเป็นคน เทียมเท่า อย่าเหมาเอง
เขาเขียนไป ใช่อย่าง ที่เขาเขียน
สร้างสรรค์เพียร เรียนหรือ มิถือเก่ง
บางใครนั้น จิตใจ ใสกว่าเพลง
จงพิศเพ่ง อย่าติใคร ให้ขุ่นเคือง
ค่าของคน ทุกคน เท่ากันหมด
อย่าเอากฎ ของตน มาปนเปลื้อง
จะยากดี มีจน ล้นนองเนือง
แม้เศษเฟื่อง แบ่งปันที มีเมตตา
พันทอง