นั่งเขียนกลอนริมทุ่งยามรุ่งสาง
กลิ่นสาบฟางลอยมายามฟ้าใส
เมื่อก่อนมีเจ้าทุยแล่นลุยไป
ชาวนาไทยสมัยนี้ไม่มีมัน
ย่างเหมันต์ผันผ่านไม่นานหรอก
หมู่เมฆหมอกลอยวนให้คนฝัน
อยากจะมีสองเราหยอกเย้ากัน
หมดวสันต์เหมันต์หนาวหาสาวคอย
ดั่งกลิ่นกลอนของฉันในวันนี้
เหมือนกับมีกลิ่นโคลนกระโจนผล็อย
คนท้องนาป่าเขาเฝ้าดงดอย
ที่หลงคอยสาวกรุงน้ำปรุงปราย
นั่งเขียนกลอนวอนสาวยามหนาวเนื้อ
อยากสนิทชิดเชื้อเมื่อรำร่าย
มนต์อักษรกลอนกานท์จากมานชาย
จากถิ่นควายตัวดำเฝ้ารำพัน
“ไพร พนาวัลย์”
นั่งเขียนกลอน อ้อนหนุ่ม กลุ้มใจนัก
ชายที่รัก ผลักไส ไล่ห่ำหั่น
ทั้งด่าทอ ท้อทด หดจาบัลย์
เคยสุขสันต์ บัดนี้ มีแต่ตรม
นั่งเขียนกลอน ก่อนเก่า เราเคียงคู่
มองปลาปู อยู่อย่าง ไม่ร้างขม
มาวันนี้ ที่เก่า เศร้าระทม
หมดอารมณ์ แล้วหนอ รอพี่ชาย
จะเหมันต์ หวั่นหนัก รักเป็นพิษ
แผลยังใหม่ ไม่สนิท คิดแล้วหน่าย
รอคอยเขา เช้าค่ำ ซ้ำใจกาย
ใจละลาย เหมือนเรา เฝ้าหลงคอย