ยังคงซึ้งหนึ่งใครไม่อาจถอน
ยังอาวรณ์อ้อนไปใส่สนอง
ยังห่วงหาคราฝันทุกวันปอง
ยังร่ำร้องในอกยกวาที
ด้วยเยื่อใยยังมากฝากรินไหล
หลั่งจากใจไหวหวามตามวิถี
หาหยุดยั้งยังโถมโหมฤดี
ดุจวารีรี่ลงตรงสายธาร
ไม่อาจเปลี่ยน ทางเดินเมินทางฝัน
ไม่อาจเปลี่ยน คืนวันอันผันผ่าน
ไม่อาจเปลี่ยน ตราตรึงในหนึ่งกาล
ไม่อาจเปลี่ยน วันหวานเคยซ่านทรวง
มีแต่เก็บเหน็บไว้ในเบื้องลึก
ปิดผนึกรักมั่นอันแสนหวง
ไม่เคยปล่อยลอยเลื่อนกับเดือนดวง
รักพุ่มพวงตรึงติด นิจนิรันดร์
ยังอาวรณ์อ้อนไปใส่สนอง
ยังห่วงหาคราฝันทุกวันปอง
ยังร่ำร้องในอกยกวาที
ด้วยเยื่อใยยังมากฝากรินไหล
หลั่งจากใจไหวหวามตามวิถี
หาหยุดยั้งยังโถมโหมฤดี
ดุจวารีรี่ลงตรงสายธาร
ไม่อาจเปลี่ยน ทางเดินเมินทางฝัน
ไม่อาจเปลี่ยน คืนวันอันผันผ่าน
ไม่อาจเปลี่ยน ตราตรึงในหนึ่งกาล
ไม่อาจเปลี่ยน วันหวานเคยซ่านทรวง
มีแต่เก็บเหน็บไว้ในเบื้องลึก
ปิดผนึกรักมั่นอันแสนหวง
ไม่เคยปล่อยลอยเลื่อนกับเดือนดวง
รักพุ่มพวงตรึงติด นิจนิรันดร์
"บ้านริมโขง"
๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๕
ไปซึ้งใคร กันเล่า เฝ้าทอดถอน
อ่านกานท์กลอน อ้อนออด พรอดหวาดหวั่น
ละเมอถึง ใครหนอ ท้อจาบัลย์
คิดถึงพัน ใช่ไหม ใคร่บอกที
แค่หายไป สองคืน สะอื้นไห้
ทอดอาลัย ครวญหา น้ำตาปรี่
ยังคงรัก ปักทรวง ดวงฤดี
จากไกลพี่ อย่าพะวง จงปลงใจ
กลับมาแล้ว แก้วตา อย่าวิตก
มิโกหก หรอกหนอ รอฝันใฝ่
ทั้งสี่ห้อง ร้อยรวง แสนห่วงใย
ฝากฤทัย ไว้กอด ตลอดวัน
รู้ว่าเก็บ เหน็บใจ ให้สุดปลื้ม
แสนดูดดื่ม ความรัก สลักมั่น
เข้าบ้านกลอน อ้อนขอ รอจำนรรจ์
หอบรักฉัน ส่งไป ให้พี่ชาย