กาลครั้งหนึ่ง : เธอคือรุ่งอรุณของฉัน
วันวันหนึ่งในที่ที่หม่นหมอง
ใครหนึ่งร้อง'สู้ต่อท้อเกินฝัน'
มีแต่ความแก่งแย่งแข่งดีกัน
จนตัวฉันล้มฟุบหน้าหลุบดิน
ใครต่อใครหัวเราะเยาะเย้ยร่อ
หวาดจะก่อฝันใหม่ทลายสิ้น
ก่อนผลักตัวหนีหายปลายชีวิน
น้ำตารินอาบทั้ง... ฝั่งแก้มนี้
ยิ้มให้กับวันเหงากอดเข่าแอบ
ทำตัวแฟบคุดคู้อยู่..บนเก้าอี้
ซบหน้ากับมือนิ่ม, ยิ้มบางที
บ่ายหน้าหนีตะวันอันแรงเรือง
วันวันหนึ่งในที่ที่หม่นหมอง
ใครหนึ่งร้อง'สู้ต่อท้อเกินฝัน'
มีแต่ความแก่งแย่งแข่งดีกัน
จนตัวฉันล้มฟุบหน้าหลุบดิน
ใครต่อใครหัวเราะเยาะเย้ยร่อ
หวาดจะก่อฝันใหม่ทลายสิ้น
ก่อนผลักตัวหนีหายปลายชีวิน
น้ำตารินอาบทั้ง... ฝั่งแก้มนี้
ยิ้มให้กับวันเหงากอดเข่าแอบ
ทำตัวแฟบคุดคู้อยู่..บนเก้าอี้
ซบหน้ากับมือนิ่ม, ยิ้มบางที
บ่ายหน้าหนีตะวันอันแรงเรือง
"แต่ท่านกรรมการคะ"
"หยุดคุณไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ผมไล่คุณออก" เสียงฉุนโกรธดังลั่นออฟฟิตแห่งหนึ่ง
"ได้โปรดฟังดิฉันก่อน..."
"ไม่ต้องแก้ตัวแล้วผมไล่คุณออกแล้วยื่นใบลาออกที่นี่ด้วย" เสียงดุกระชากกร้าวขับไล่พนักงานร่างบาง
เธอมอง 'ผู้เคยเป็นนาย' ครั้งสุดท้ายก่อนเดินลงมาโบกแท็กซี่กลับบ้าน
ภายในออฟฟิตสาขาใหญ่ของสถาปนิกออกแบบดีไซน์บ้านหลายวันต่อมา
"ฉันว่าจริงๆยายรินก็ทำงานดีนะ แต่ไม่น่าไปสะเออะออกความคิดเห็นกับท่านกรรมการเลย เห็นเขาว่าโดนไล่ออกเพราะออกความเห็นเรื่องเอาของไม่มีคุณภาพสั่งให้ลูกค้าแล้วโก่งราคาเท่าของเกรดเอล่ะ ยายนั่นเลยโวยวายทะเลาะกับท่านกรรมการจนโดนไล่ออกนี่แหละ" โฉมศรีพูดขึ้นเมื่อหันเก้าอี้หาศรีสมร
"ใช่แหละเธอ อุ๊ย ฉันลืมบอกไปเรื่องนี้ดังไปถึงหูบอร์ดใหญ่เห็นเขาลงมติกันว่าจะส่งคนใหม่มาแทนท่านผู้จัดการสาขานี้นะ เห็นว่าหล่อด้วยละยะหล่อน" ศรีสมรทำท่าจีบปากจีบคอพูดเมื่อถึงปลายประโยค "เขาว่าเพิ่งเรียนจบมาหมาดๆด้วยล่ะเธอตั้งเมืองนอกเมืองนาโน้นแน่ะ"
"แต่อย่าหวังสูงมากล่ะหล่อน เห็นว่าผู้ชายหล่อๆเดี๋ยวนี้แอ๊บกันทั้งนั้น" โฉมศรีว่าอย่างหมิ่นก่อนขยับเก้าอี้เข้ามาชิดเพื่อนสาวที่ร่วมทำงาน
"นี่ๆหล่อนเห็นว่าเป็นลูกชายประธานใหญ่ที่ตั้งบริษัทขึ้นมาด้วยล่ะหล่อน เห็นว่าให้มาลองงานที่บริษัทสาขาใหญ่นี้น่ะ ชื่ออะไรนะ อืมมม์ คุณวานิตย์สินะ" โฉมศรีว่าก่อนจะขยับออก
"อ๋อ...ถ้างั้น อีกสักหน่อยคงได้บริหารบริษัทใหญ่สินะหล่อน ทั้งหล่อทั้งรวยแล้วยังเก่งอีกหาไม่ได้แล้วนะเธอ" ศรีสมรขยิบตาให้นิดหนึ่งก่อนดันตัวลุกขึ้นไปชงกาแฟ
ชายร่างสูงสวมสูทกรมท่าดูภูมิฐาน ดวงหน้าขาวรับกับคิ้วหนาเข้มปากสีชมพูหยักได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลสนิมกวาดตามองภายในออฟฟิตใหญ่ก่อนก้าวเดินมาที่หน้าโต๊ะเลขาสาว
"สวัสดีครับคุณโฉมศรี" เขาหรี่ตามองป้ายชื่อพนักงานที่อกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเลขาหน้าห้อง
"ผมต้องการรายชื่อพนักงาน และโปรเจ็กงานตั้งแต่ต้นด้วยนะครับ ถ้าจะให้ดีขอภายในครึ่งชั่วโมงนี้และกาแฟไม่หวานหนึ่งถ้วยครับ" เขาพูดพร้อมผลักประตูห้องกรรมการสาขาใหญ่เข้าไป โฉมศรีอ้าปากหวอทำหน้ามึนงงชั่วขณะ
"ทำไมทำหน้าอย่างงั้นล่ะยายโฉมเมื่อกี่ใครล่ะเห็นหลังแว๊บๆ" สมรศรีพูดพร้อมวางถ้วยกาแฟไว้บนโต๊ะเพื่อน
"คุณวานิตย์ คุณวานิตย์มาแล้วยายหมอนไปชงกาแฟมาไม่ต้องหวานนะเดี๋ยวฉันไปเอาโปรเจ็กเก่ามาก่อน" โฉมศรีกุลีกุจอลุกอย่างทุลักทุเล พอตั้งสติได้เจ้าหล่อนก็วิ่งไปฝ่ายวิชาการทันที
๑๕ นาทีต่อมาของทั้งหมดที่ 'ท่านกรรมการ' สั่งก็มาอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขากวาดสายตาดูตั้งแต่ต้น มีหลายโปรเจ็กที่น่าสนใจหลายชิ้นเลยทีเดียว เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นต่อสายเลขาหน้าห้อง สักครู่เธอเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มประวัติพนักงานคนหนึ่ง
"เดี๋ยวคุณสายสมร" เขาเรียกเมื่อเธอจะเดินหันหลังออกไป
"คะ?" เธอหยุดเดินพร้อมหันหลังกลับมา
"คุณช่วยเรียกพนักงานคนนี้ให้ผมที" เสียงนุ่มเอ่ยขึ้น
"คงจะไม่ได้หรอกค่ะ"
"หืม?"
"เพราะว่าวันนี้เธอจะมายื่นใบลาออกแล้วล่ะค่ะคุณวานิตย์"
"ทำไม?"
"ก็เพราะ..."
เสียงรองเท้าส้นสูงดังหน้าห้องพร้อมร่างบางดันประตูห้องเข้ามา เธอยืนสูดลมหายใจก่อนจะหอบเอกสารกองใหญ่เดินผ่านโฉมศรีเลยโดยไม่คิดจะสนใจสักนิด และไม่คิดปรายตามองเจ้าท่านกรรมการ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหม่ เธอเดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานพร้อมโปรเจ็กใหม่ที่เพิ่งทำเสร็จพร้อมแบบจำลองบ้านที่ดัดแปลงเป็นสถานที่ฝึกโยคะ ขนาดกองท่วมหัวคนร่างบาง
"นี่ค่ะถึงดิฉันจะลาออกวันนี้แต่ก็ไม่ได้ค้างงานที่มอบหมายให้ดิฉันทำ ดิฉันมีความรับผิดชอบพอค่ะ" เธอพูดพร้อมวางงานลงต่อหน้าท่านกรรมการดัง 'ปึ้ง'
"แล้วคนอย่างคุณ..." นิ้วเรียวยาวชี้ที่หน้ากรรมการก็ต้องงอลง
"ดิฉันขอโทษค่ะ" เธอรีบหันหลังกลับ ด้วยความเสียหน้าโดยหารู้ไม่คนตรงหน้าไม่ใช่ 'เจ้านายคนเก่า' ที่ตะเพิดไล่เธอออกเมื่อวันวานนั้น
"เดี๋ยวคุณหยุดก่อน" เสียงนุ่มเอ่ยดวงตาสีน้ำตาลสนิมมองแฝงความนัย
"ผมรับคุณเข้าทำงาน"
"หา? ให้ดิฉัน..."
"ใช่ คุณฟังไม่ผิดหรอกคุณรินลดา" เขาพูดพร้อมฉีกใบลาออกที่มาพร้อมกับงานชิ้นสุดท้ายสำหรับเจ้านายเก่า และตอนนี้ในวินาทีนี้ กำลังจะเริ่มงานกับเจ้านายใหม่
"ความคิดที่แตกต่างของคุณน่าสนใจดีอย่าง...โยคะในบ้านนี่ก็ดัดแปลงได้เหมาะสม ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย" เขาไล่มองตั้งแต่สวนไปจนถึงในตัวบ้านก่อนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับรินลดา เขาไล่ตามองดูร่างระหง แพรผมสีน้ำตาลอ่อนระบ่า กับปากสีแดงสวย จมูกรั้นเชิดดวงหน้านวลสีผิวน้ำตาลอ่อนแบบฉบับหญิงไทย
"วันนี้คุณไปพักผ่อนก่อนพรุ่งนี้คุณมาทำงานตามปกติเดี๋ยวผมจะมอบโปรเจ็กใหม่ให้คุณไปทำ" เขาพูดพร้อมลุกขึ้น "ผมสนใจในตัวคุณ"
หัวใจของรินลดากระตุกไหววูบหนึ่ง ก่อนที่จะเป็นปกติ ดวงหน้าของเธอฉงนฉงายกับคำลับลมคมในวูบหนึ่งก่อนเป็นปกติ
"ขอบคุณค่ะท่านกรรมการ" เธอยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ ร่างระหงเดินออกไปจากห้อง
"ขอบคุณมาก คุณสายสมร"
หล่อนพยักหน้าให้นิด ก่อนเดินตามรินลดาออกไป ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอีกครั้งก่อนที่ชายร่างสูงจะนั่งลงบนเก้าอี้
"คุณยังเหมือนเดิมเลยรุ่งอรุณของผม"