ยากสัมผัสแทนใครในรู้สึก
เพียงตรองตรึกนึกไปใช่ล่ะหรือ
สิ่งใครกล่าวเล่าฝันสิ่งนั้นคือ
ควรยึดถือว่าจริงทุกสิ่งอัน
จะแจ่มใสนัยน์ตาหรือว่าบอด
ใช่เยี่ยมยอดจิตดีที่ไหนนั่น
ความเป็นคนปนอยู่คู่ชีวัน
ดีเลวปันแปดเปื้อนใช่เลือนลา
พฤติกรรมนำออกต่างบอกแหล่ง
แม้แอบแต่งต่อเติมเสริมใบหน้า
มากยามยลผลมีที่กิริยา
มากคำจามาเอ่ยเปิดเผยตน
ทิพย์สัมผัสจัดให้ได้รู้สึก
เก็บตรองตรึกด้วยจิตคิดกุศล
รับรู้ได้ด้วยใจใสกมล
ใช่ปวงชนรู้เห็นเช่นเดียวกัน
จะต้องผ่านการฝึกลึกเลิก,ละ
มีมานะขัดเกลาเผาเสกสรร
หาแก่นมันอันใดในสำคัญ
ผู้รู้ทันนั้นหยิบ..ทิพย์อารมณ์
ทิพย์สัมผัสจัดให้ใครผ่องแผ้ว
จิตมั่นแล้วในผลพ้นหวานขม
ผู้รู้เกิดรู้ตายรู้คลายปม
หยิบเสพสมเพียงพอต่อชีวี..
เพียงตรองตรึกนึกไปใช่ล่ะหรือ
สิ่งใครกล่าวเล่าฝันสิ่งนั้นคือ
ควรยึดถือว่าจริงทุกสิ่งอัน
จะแจ่มใสนัยน์ตาหรือว่าบอด
ใช่เยี่ยมยอดจิตดีที่ไหนนั่น
ความเป็นคนปนอยู่คู่ชีวัน
ดีเลวปันแปดเปื้อนใช่เลือนลา
พฤติกรรมนำออกต่างบอกแหล่ง
แม้แอบแต่งต่อเติมเสริมใบหน้า
มากยามยลผลมีที่กิริยา
มากคำจามาเอ่ยเปิดเผยตน
ทิพย์สัมผัสจัดให้ได้รู้สึก
เก็บตรองตรึกด้วยจิตคิดกุศล
รับรู้ได้ด้วยใจใสกมล
ใช่ปวงชนรู้เห็นเช่นเดียวกัน
จะต้องผ่านการฝึกลึกเลิก,ละ
มีมานะขัดเกลาเผาเสกสรร
หาแก่นมันอันใดในสำคัญ
ผู้รู้ทันนั้นหยิบ..ทิพย์อารมณ์
ทิพย์สัมผัสจัดให้ใครผ่องแผ้ว
จิตมั่นแล้วในผลพ้นหวานขม
ผู้รู้เกิดรู้ตายรู้คลายปม
หยิบเสพสมเพียงพอต่อชีวี..
"บ้านริมโขง"
คมคำกานท์ผ่านกวีที่นำฝาก
ในวิบากตามทางหว่างวิถี
ผนึกมั่นตรองคิดในจิตพลี
สัมผัสที่มองชัด..อัศจรรย์
แจ่มใสในครรลองเมื่อมองเห็น
สู่ประเด็นใจคิดในจิตสรร
วาบหนึ่งในคำนึงซึ่งผ่องพรรณ
ดุจตะวันนำทางส่องกลางใจ
มองถึงแก่นมโนทัศน์สัมผัสก้าว
จะสั้นยาวแตะต้องแม้หมองไหม้
ร้อนเย็นจับดับ สุก ลุกเป็นไฟ
คงควันไว้ต้องนาสาเพื่อพาทวน
สัมผัสทิพย์ลิบล่องกรองกานท์สู่
เธอคงรู้กลอนว่าง เพียงบางส่วน
หากแต่เพื่อนสานใจให้ทั้งมวล
จึงให้หวนถึงกลอน..แต่ก่อนมา
บัดนี้แล้วแววกวี..วจีหวาน
มีใครอ่านให้ฟังบ้างไหมหนา
เธอทอดทางออกไปถึงปลายฟ้า
ไม้เท้าพาเธอเผชิญเดินถึงไหน ?
รการตติ