"อยากจะให้รู้"
ให้รู้-แจ้ง ความจริง ไม่อิงฝัน
ให้รู้-วัน เวลา มิพาเผลอ
ให้รู้-ถึง หนึ่งใจ ที่ใฝ่เจอ
ให้รู้-ว่า รักเธอ...เสมอนิรันดร์...
"สุนันยา"
มัวจรดจ้องมองเมียงเลียบเคียงค่าย
มัวแต่หมายชี้เป้าจากเงานั้น
มัวแต่ทำอ้ำอึ้งตะลึงงัน
อีกกี่วันถึงเผยเอ่ยออกมา
อยากให้รู้ไม่บอกหลอกให้คอย
ไร้ร่องรอยโผผินถวิลหา
ไม่จริงใจเลื่อนไปในเวลา
เสน่หาหรือเสน่หด..กดอารมณ์
อยากให้รู้หลบหน้าคราเดินผ่าน
เก็บสะท้านในทรวงลวงชื่นสม
พอยามห่างไม่เห็นเป็นระทม
จริงหรือตรม..เพราะเขา..หรือเรากลัว
หวังรักก่อต่อเติมเข้าเสริมฝัน
ความผูกพันเป็นหนึ่งจึงหวานทั่ว
หากครางแคลงแหนงนำกล้ำกลืนตัว
มากรอยรั่วยั่วเย้า..ยากเข้าใจ..
มัวแต่หมายชี้เป้าจากเงานั้น
มัวแต่ทำอ้ำอึ้งตะลึงงัน
อีกกี่วันถึงเผยเอ่ยออกมา
อยากให้รู้ไม่บอกหลอกให้คอย
ไร้ร่องรอยโผผินถวิลหา
ไม่จริงใจเลื่อนไปในเวลา
เสน่หาหรือเสน่หด..กดอารมณ์
อยากให้รู้หลบหน้าคราเดินผ่าน
เก็บสะท้านในทรวงลวงชื่นสม
พอยามห่างไม่เห็นเป็นระทม
จริงหรือตรม..เพราะเขา..หรือเรากลัว
หวังรักก่อต่อเติมเข้าเสริมฝัน
ความผูกพันเป็นหนึ่งจึงหวานทั่ว
หากครางแคลงแหนงนำกล้ำกลืนตัว
มากรอยรั่วยั่วเย้า..ยากเข้าใจ..
"บ้านริมโขง"
อยากให้รู้ มานาน มานปวดปร่า
ทรมาน์ ดวงจิต คิดคำไข
กลัวคำตอบ มอบกลับ สลับไป
ไม่เหมือนดั่ง หวังไว้ หทัยตรม
อยากให้รู้จึงเพียรเขียนกลอนเย้า
หวานคละเคล้า เหงารอ ท้อขื่นขม
หวังว่าเขา(เธอ)เข้าใจ ในอารมณ์
ที่โศกซม ถมทัก ด้วยรักจริง
อยากให้รู้ ให้ถาม ยามเดินผ่าน
หนาวสะท้าน ซ่านไหว ดวงใจหญิง
เธอไม่มอง ต้องเขินอาย ไม่กล้าติง
อยากแอบอิง พิงขวัญ...แต่ฉันกลัว
รู้หรือยัง? ว่าไฉน ใจมิกล้า
ประหนึ่งว่า วิงวอน ตอนฟ้าหลัว
แสงกลางใจ คล้ายดับ กลับมืดมัว
เธอรู้ตัว หรือเปล่า....ว่าเขาใคร?...
“สุนันยา”
ทรมาน์ ดวงจิต คิดคำไข
กลัวคำตอบ มอบกลับ สลับไป
ไม่เหมือนดั่ง หวังไว้ หทัยตรม
อยากให้รู้จึงเพียรเขียนกลอนเย้า
หวานคละเคล้า เหงารอ ท้อขื่นขม
หวังว่าเขา(เธอ)เข้าใจ ในอารมณ์
ที่โศกซม ถมทัก ด้วยรักจริง
อยากให้รู้ ให้ถาม ยามเดินผ่าน
หนาวสะท้าน ซ่านไหว ดวงใจหญิง
เธอไม่มอง ต้องเขินอาย ไม่กล้าติง
อยากแอบอิง พิงขวัญ...แต่ฉันกลัว
รู้หรือยัง? ว่าไฉน ใจมิกล้า
ประหนึ่งว่า วิงวอน ตอนฟ้าหลัว
แสงกลางใจ คล้ายดับ กลับมืดมัว
เธอรู้ตัว หรือเปล่า....ว่าเขาใคร?...
“สุนันยา”