อันความรัก มักหลุด ฉุดไม่อยู่
อยากมีคู่ ชิดกัน แสนหวั่นไหว
อยากอยู่เรียง สองเรา ทำอย่างไร
เจ็บฤทัย ทุกครั้ง ต้องนั่งตรม
อันความรัก หลากเรื่อง เปลืองสมอง
ต่างมุมมอง ต่างฝ่าย ร้ายเหมาะสม
ขิงก็รา ข่าก็แรง แสร้งระทม
เมื่อรักล่ม น้ำตา ทาสองปราง
อันความรัก ยากนัก มักไม่สม
ใช้อารมณ์ ตัดสิน สิ้นเหินห่าง
จึงอยู่เดียว เปลี่ยวดาย กายอ้างว้าง
คงเป็นลาง แล้วหนอ ท้อเต็มที
พันทอง
จึงต้องบอก ความนัย ให้กระจ่าง
ให้รู้ทาง ครรลอง ก่อนหมองศรี
เพื่อสืบสาน สายใย ที่ใจมี
มอบภักดี พลีให้ ไว้เคียงครอง
เพราะว่ากลัว เมื่อกาล ต้องผ่านเปลี่ยน
รักเคยเวียนห่างหาย กลายหม่นหมอง
สิ้นความหมาย คล้ายขื่น มายืนจอง
สิ่งที่ปอง กลับกลาย สลายเลือน
ถ้อยคำหวาน ขานกล่าว เมื่อคราวรัก
ไม่ตะหนัก พักอิง ในสิ่งเหมือน
แม้นหางตาไม่แล ทำแชเชือน
ดั่งเชือดเฉือน ฤดี ขยี้ใจ...
“สุนันยา”
ให้รู้ทาง ครรลอง ก่อนหมองศรี
เพื่อสืบสาน สายใย ที่ใจมี
มอบภักดี พลีให้ ไว้เคียงครอง
เพราะว่ากลัว เมื่อกาล ต้องผ่านเปลี่ยน
รักเคยเวียนห่างหาย กลายหม่นหมอง
สิ้นความหมาย คล้ายขื่น มายืนจอง
สิ่งที่ปอง กลับกลาย สลายเลือน
ถ้อยคำหวาน ขานกล่าว เมื่อคราวรัก
ไม่ตะหนัก พักอิง ในสิ่งเหมือน
แม้นหางตาไม่แล ทำแชเชือน
ดั่งเชือดเฉือน ฤดี ขยี้ใจ...
“สุนันยา”