สายฝนยัง พรำอยู่ ไม่รู้หาย
เย็นพระพาย ยังพัด สบัดนั่น
ท้องฟ้ายัง ดำมืด ไม่จืดกัน
ดวงตะวัน ไม่เห็น เด่นบนฟ้า
มองลอดช่อง หน้าต่าง บางครั้งเหม่อ
หวังเพียงเธอ มองกลับ จับดวงหน้า
สุดสายใย ใจเฝ้า เนาแนบมา
จนอุรา ป่วนปั่น หวั่นดวงแด
มองลอดช่อง หน้าต่าง พลางใจสั่น
ฝนตกพลัน อย่างหนัก ชักจะแย่
ถ้ามีเขา อยู่ด้วย ช่วยดูแล
ถึงจะแย่ ยังสู้ไหว ใจสองเรา
มองลอดช่อง หน้าต่าง ระหว่างซี่
สายฝนรี่ เร่งเกิน เพลินตกเข้า
หากสายฝน ซาลง คงใจเบา
จะรอเขา คนนั้น หันกลับมา
พันทอง
สายฝนพรำซ้ำซากเหมือนฝากถ้อย
ให้คนคอย พลอยขื่น สะอื้นหา
ดังตอกย้ำ นำห็น เป็นน้ำตา
ที่หลั่งมา รินแต้ม สองแก้มนวล
ต้องโศกเศร้า กมล ทนหนาวเหน็บ
ยามกลืนเก็บ ร้าวรอน นอนไห้หวน
โอ้อกเอ๋ย เคยร้อย ส่งถ้อยครวญ
กลับเรรวน แรมร้าง เดินห่างไกล
มองลอดช่อง หน้าต่าง กี่ครั้งหน
ยังมีฝน หล่นลง คงหวั่นไหว
เขาไม่หวนคืนกลับ ลาลับไป
หมดสิ้นแล้ว เยื่อใย ทิ้งให้ตรม
เหม่อมองฟ้า คราหม่น ยามฝนสาด
ดังหยดหยาด น้ำตา คราขื่นขม
เมื่อไหร่หนอ สิ้นเหงา หมดเศร้าตรม
ขอวอนพรหม นำชัก มอบรักคืน...
“สุนันยา”
ให้คนคอย พลอยขื่น สะอื้นหา
ดังตอกย้ำ นำห็น เป็นน้ำตา
ที่หลั่งมา รินแต้ม สองแก้มนวล
ต้องโศกเศร้า กมล ทนหนาวเหน็บ
ยามกลืนเก็บ ร้าวรอน นอนไห้หวน
โอ้อกเอ๋ย เคยร้อย ส่งถ้อยครวญ
กลับเรรวน แรมร้าง เดินห่างไกล
มองลอดช่อง หน้าต่าง กี่ครั้งหน
ยังมีฝน หล่นลง คงหวั่นไหว
เขาไม่หวนคืนกลับ ลาลับไป
หมดสิ้นแล้ว เยื่อใย ทิ้งให้ตรม
เหม่อมองฟ้า คราหม่น ยามฝนสาด
ดังหยดหยาด น้ำตา คราขื่นขม
เมื่อไหร่หนอ สิ้นเหงา หมดเศร้าตรม
ขอวอนพรหม นำชัก มอบรักคืน...
“สุนันยา”