ดอกบัวขาว พราวไสว ในกลางสระ
มิเคยละ ต้องลม พรมลูบไล้
สู้กรำฝน ทนแดดจ้า ฟ้าอำไพ
กว่าวิไล เรืองรอง ผ่องผุดพรรณ
เมื่อแต่น้อย ใต้ตม จมโคลนเน่า
พ้นปลาเต่า มาได้ ให้สุขสันต์
วารีช่วย พยุงต้าน ก้านชูชัน
กว่ามีวัน ตั้งตรง คงต้องทน
ดอกบัวน้อย ลอยคว้าง อยู่กลางสระ
แรงปะทะ หลายอย่าง บ้างสับสน
ขาดไม้ใหญ่ ใบร่ม ห่มบังบน
กรำแดดฝน จนหม่นร่วง ห้วงแห่งกาล
มิเคยละ ต้องลม พรมลูบไล้
สู้กรำฝน ทนแดดจ้า ฟ้าอำไพ
กว่าวิไล เรืองรอง ผ่องผุดพรรณ
เมื่อแต่น้อย ใต้ตม จมโคลนเน่า
พ้นปลาเต่า มาได้ ให้สุขสันต์
วารีช่วย พยุงต้าน ก้านชูชัน
กว่ามีวัน ตั้งตรง คงต้องทน
ดอกบัวน้อย ลอยคว้าง อยู่กลางสระ
แรงปะทะ หลายอย่าง บ้างสับสน
ขาดไม้ใหญ่ ใบร่ม ห่มบังบน
กรำแดดฝน จนหม่นร่วง ห้วงแห่งกาล
"ดิน"
ตัวพี่เป็น เช่นดอกบัว กลั้วเกลือกดิน
เกิดในถิ่น ท้องนา น่าสงสาร
ทั้งปากกัด เท้าบุก ล้มลุกคลาน
ผิวดำกร้าน พานเหม็นเหงื่อ เถือขี่ไคล
น้องสูงค่า เกินกว่าใจ จะไขว่คว้า
เกิดมา อังคาพยพ คบไม่ใหญ่
เป็นเอื้องฟ้า สูงค่า กว่าใครใคร
เกินหัวใจ ของพี่ นี้หมายปอง
ร่วมแจกัน อันสวยหรู บูชาพระ
ก็พอจะ อภิรมย์ สมคู่สอง
ใครผ่านไป ได้เห็น เด่นชวนมอง
ก็เพราะน้อง ประดับอยู่ คู่แจกัน
ชลนา ทิชากร
เกิดในถิ่น ท้องนา น่าสงสาร
ทั้งปากกัด เท้าบุก ล้มลุกคลาน
ผิวดำกร้าน พานเหม็นเหงื่อ เถือขี่ไคล
น้องสูงค่า เกินกว่าใจ จะไขว่คว้า
เกิดมา อังคาพยพ คบไม่ใหญ่
เป็นเอื้องฟ้า สูงค่า กว่าใครใคร
เกินหัวใจ ของพี่ นี้หมายปอง
ร่วมแจกัน อันสวยหรู บูชาพระ
ก็พอจะ อภิรมย์ สมคู่สอง
ใครผ่านไป ได้เห็น เด่นชวนมอง
ก็เพราะน้อง ประดับอยู่ คู่แจกัน
ชลนา ทิชากร