เจ้าเป็นไฟไหม้ลามยามโมโห
ต้องตามโอ๋ไม่หยุดสุดสยอง
เอาแต่ใจตัวเองตะเบ็งร้อง
จนเสียงก้องเกินรับระงับใจ
ฉันก็มีหัวใจอันใดผิด
ยามใกล้ชิดร้อนรนทนหมองไหม้
แผ่เมตตาให้เธอยามเผลอไป
เพราะทรามวัยบางทีก็ดีเกิน
จะอดทนต่อไปไม่นานหรอก
จะขอบอกอำลาอย่ามาเอิ้น
จะขอตายจากกันไม่ทันเดิน
จะขอเพลินวิมานม่านฉิมพลี
อยากจะว่าอย่างไรไม่ถือโกรธ
แต่ขอโทษน้ำตาอย่าไหลรี่
จะขอใช้เวรกรรมที่ย่ำยี
สิ้นชีวีวันใดตัวใครมัน
“ไพร พนาวัลย์”
ลองเล่นบทโศกดูซะมั่ง
ตอนมาจีบ ฉันนี้ มิมีบ่น
พ่อหน้ามน ทนมา ระอาฉัน
เช้าก็ถึง เย็นถึง จึงผูกพัน
ความรักมั่น ฟั่นเกลียว เกี่ยวแดดวง
ฉันจะบ่่น ทนได้ ในทุกที่
ฉันวีนที ตามโอ๋ โถแหนหวง
อยากได้ไร ให้หมด ไม่ปดลวง
ถือเป็นช่้วง วัดใจ ใช่ไหมเธอ
รักสุกงอม หอมหวาน ปานน้ำอ้อย
แม้คำน้อย ไม่เคยว่า จ้าเสมอ
เรียกที่รัก ทุกคำ จำไหมเออ
รักล้นเอ่อ เพ้อหา เวลานอน
ตอนวันแต่ง จำได้ ไหมเล่าหนอ
บอกจะขอ รักฉัน ไม่ผันผ่อน
ถึงแก่เฒ่า เพียงไร ใคร่ขอวอน
จะไม่ถอน คลอนคลาย หน่ายระทม
ยี่สิบปี ผ่านไป วัยเลขหก
อยู่กับฉัน มันนรก อกขื่นขม
ที่ต้องทน จนแก่ แท้ตรอมตรม
ใช่ชื่นชม หรอกหนอ ขอแยกทาง
พันทอง