อริญชย์ VS รพีกาญจน์(กรุณาอ่านเฉพาะตัวหนังสือสีแดง)
ขอบคุณภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต
ปลาไหลเผือก
ปลาไหลเผือก ผิวงาม อร่ามเหลือง
เลื้อยยักเยื้อง มันขลับ ระยับไหว
สาเหตุที่ ยังรอด อยู่ปลอดภัย
เพราะคนไป ขอหวย หวังรวยกัน
ยามม้วนตัว คนเห็น เกลียวเป็นห้า
บางคนว่า เลขสาม ฮาตามลั่น
บางคนบอก หกเก้า เจ็ดเท่านั้น
ต่างคิดฝัน กันไป ตามใจตน
ปลาไหลเผือก เมื่อยแล้ว นอนแซ่วอยู่
คงหดหู่ ภายใน หัวใจหม่น
เช้ายันเย็น มาขอ โอ้หนอคน
หวังหายจน หรือเล่น พอเป็นยา
อยากให้คน ชื่นชม ไม่ต้มเปรต
ทั่วคามเขต เจือจุน เห็นคุณค่า
ถูกหวยกิน อย่าได้ ถือไม้มา
ปล่อยดีกว่า เป็นบุญ เกื้อหนุนเอย!ฯ
อริญชย์
๓๐/๙/๒๕๕๕
อริญชย์บอกว่า"ปลาไหลเผือกผิวเหลือง สาเหตุที่ยังปลอดภัยเพราะคนไปขอหวย
ยามม้วนตัวคนเห็นเป็นห้า บางคนว่าสาม บางคนบอก หกเก้าเจ็ด ต่างคิดกันไป
ปลาไหลเผือกนอนแซ่วหดหู่ใจ โอ้..คนหวังเล่น อยากถูกหวย อย่าได้ปล่อย"
คงไม่เชื่อ เมื่อก่อน เท่าท่อนแขน
คนวิ่งแจ้น ขนซู่ ว่างูใหญ่
มือปะหลก ผีนาง หรือสางไพร
บ้างเผลอไผล ตุตะ เทวดา
เพราะในน้ำ มีปลา นามีข้าว
หลักรั้วราว มากนัก ผักพืชป่า
ขอแลกกิน สิ้นไป ไร้ราคา
ตามประสา คนดี พี่น้องเรา
เห็นปลาไหล ไกลพ้น คนรังเกียจ
มันเบียดเสียด และเล็ม เต็มศพเน่า
ให้ฟรีฟรี กี่ตัว ก็ไม่เอา
พอเห็นเท่า ขี้ตา แทบอาเจียน
กะละมัง ถังกรง จับลงใส่
ยุคสมัย ใจซม สังคมเปลี่ยน
เป็นอาหาร จานโปรด ของโคตรเซียน
ปลาไหลเหี้ยน สลด หมดสูญพันธุ์
รพีกาญจน์ 59
รพีกาญจน์บอกว่า"ไม่เชื่อ เมื่อก่อนคนว่างู เพราะไร้ราคา
เห็นปลาไหลคนรังเกียจ ให้ฟรีก็ไม่เอา พอเห็นแทบอาเจียน
ยุคสมัยสังคมเปลี่ยน เป็นอาหารของเซียน ปลาไหลสูญพันธุ์"