กาพย์กลอนฉบัง ๑๖
* แว่วแว่ว แผ่วเสียง ถามไถ่........จากกาล นานไกล.......ถามใจ ถามเรา เยาวชน
ท่านถาม ถามไย ให้ฉงน............ถามแห่ง ถามหน........เหล่าเรา ดั้นด้น ดาวไหน
เราย่อม อยากฝัน อยากเป็น........สำเร็จ โดดเด่น..........มีงาน บ้านเนา สุขใจ
มิ่งมิตร คู่ชิด สนิทใกล้...............ฝากผี ฝากไข้............พรไท้ เผื่อเรา นิรันดร์ (๔๑๗)
ขอขอบคุณ คุณ Orion264(มือขวา) เป็นอย่างยิ่งที่ให้แนวคิดพิสดารนี้
====
* กาพย์ฉบัง จังงัง ข้าน้อย......เฉกหมัด ซัดข้อย.....ต้องล้ม จมลึก หลับนาน
ในฝัน ฉันเห็น กลอนกานท์.....ดุจดั่ง นงคราญ........ตระการ ร่ำร้อง ก้องสรวง
โลดลิ่ว ร่วมร่าย หวังเป็น........ดาวหนึ่ง จรัสเห็น.......ใครจัก รักช่วย เติมตวง
บ่บ้า ติดยึด สื่งลวง...............หวังเพื่อน ทั้งปวง......มอบใจ ให้ฟื้น ตื่นคืน (๔๑๘)
====
* ชื่อฉัน "เห็ดหอม" ชอบกิน.....คุณแม่ จึ่งถวิล........ทำกัน เกือบทุก วันวาร
ฉันก็ บ่เบื่อ ฤ รำคาญ..............มิพรั้น กินนาน........มิยั่น ย่อท้อ หลีกหนี
เห็ดกิน ไป่อ้วน แข็งแรง..........สุขภาพ สำแดง.......ร่างกาย สุดสวย เซ็กซี
สอบได้ เลขเดี่ยว เป็นศรี.........พ่อแม่ เปรมปรีดิ์......ครอบครัว ฉันมี สุขใจ (๔๑๙)
====
เพื่อนๆ มีความคิดดีๆ เพิ่มเติม แบ่งปันมานะครับ
ปรับแก้มา ๓ บท พอได้แนวทางว่า
ต้องแต่งเป็น กาพย์ฉบัง ๒ ชุด แต่ละชุดมี ฉบัง ๒ บท
บท๑ เป็น วรรคสดับ ในกลอน ไม่แน่ใจว่า ควรห้ามคำท้ายเป็นเสียงสามัญ แบบกลอนไหม เพราะนี่เป็น กาพย์ ควรอ่านแบบกาพย์ ?
บท๒ เป็นวรรครับ คำท้ายควรยึดแบบกลอน คือ เสียงจัตวาเพราะสุด ตามด้วย โท เอก
ที่ต้องแยกเป็น ฉบังชุดสอง เพราะถ้าบท๓ ไปรับสัมผัสจากบท๒ สัมผัสจะเลือน คือมีมากไปครับ อย่างข้างล่างนี้
* แว่วแว่ว แผ่วเสียง ถามไถ่......จากกาล นานไกล.......ถามใจ ถามเรา เยาวชน
ท่านถาม ถามไย ให้ฉงน............ถามแห่ง ถามหน........เหล่าเรา ดั้นด้น ดาวไหน
เราย่อม อยากฝัน อยากใฝ่..........สำเร็จ ก้าวไกล.........มีงาน บ้านเนา สุขใจ
มิ่งมิตร คู่ชิด สนิทใกล้...............ฝากผี ฝากไข้..........พรไท้ เผื่อเรา นิรันดร์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
22 พฤศจิกายน 2024, 03:29:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: เชิญชวนแต่งกาพย์พันบท (อ่าน 159041 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: