เป็นรอยเจ็บลึกลึก..รู้สึกได้
แผลหลบในอำพรางอย่างปวดปร่า
สองพวงแก้มแต้มยิ้ม..ปริ่มน้ำตา
คอยหลบหน้าผู้คนบนทางเดิน
ใจอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวยังเดี่ยวโดด
อยากจะโทษผีไพรในเขาเขิน
ว่าเจ้าหลอนหลอกใจ..ใช่บังเอิญ
ยามที่เพลินท่องทางอย่างลืมตน
พิษไข้รุมสุมเจ็บ..ยังเหน็บหนาว
มองดวงดาวท่ามราตรีสีเทาหม่น
ขับลำนำโหยไห้กล่อมใจตน
ความปวดร้าวท่วมท้นบนรอยช้ำ
นอกหน้าต่าง..ใบไม้..ไหวทักหมอก
ลมระลอก..ล้อทิวไผ่..คล้ายครวญคร่ำ
เผลอสะกิด..แผลรักที่..เป็นสีดำ
ปลุกรอยช้ำรอยเดิม..จนเริ่มชิน
แซมค่ะ
โอ้รักเอยเคยชื่นระรื่นฉ่ำ
สุขเลิศล้ำย้ำจิตเป็นนิจสิน
ดั่งทิพย์ธารซ่านอุราอยู่อาจิณ
ไม่หมดสิ้นรินซาบเอิบอาบใจ
แล้วเหตุใดให้ช้ำมากกำสรด
เคยหลั่งรดหมดแล้งแห้งไฉน
ไยหมดหวานซ่านซ่าร้างราไกล
ทิ้งอาลัยให้อยู่เป็นคู่ครอง
เจ็บปวดใจให้ลำบากจนยากฝืน
เมื่อไรชื่นคืนข้างมาล้างหมอง
มาเกี่ยวก้อยคอยรับประคับประคอง
ล้างใจคล้ำซ้ำสองข้าร้องครวญ?
" บูรพ์ "
ฮือ ๆ....มาร่วมเศร้าด้วยคนจ๊ะ