สายฝนพรำนำกายหนาวร้าวดวงจิต
ดั่งฝนพิษติดพร่างพรมตรมสับสน
หวนอาวรณ์ตอนเคยอยู่คู่สองคน
อิงอกบนยอดขุนเขาลำเนาไพร
เดี๋ยวนี้มีแผ่นฟ้าวางมากางกั้น
สิ้นสุดวันฝันสุขสมขมหวั่นไหว
เจ็บระกำช้ำนักหนาพาห่างไกล
ลาจากไปไม่ขอครวญทวนย้อนคืน
“ ดอกฝิ่น "
ดั่งฝนพิษติดพร่างพรมตรมสับสน
หวนอาวรณ์ตอนเคยอยู่คู่สองคน
อิงอกบนยอดขุนเขาลำเนาไพร
เดี๋ยวนี้มีแผ่นฟ้าวางมากางกั้น
สิ้นสุดวันฝันสุขสมขมหวั่นไหว
เจ็บระกำช้ำนักหนาพาห่างไกล
ลาจากไปไม่ขอครวญทวนย้อนคืน
“ ดอกฝิ่น "
สายฝนโรยร่วงหล่นบนความเหงา
ทิ้งความเศร้าโศกช้ำ ให้จำฝืน
ห้วงอารมณ์ ตรมเหงา เฝ้ากล้ำกลืน
ไร้สุขชิ่น ห่อห้อม ต้องตรอมตรม
หรือแผ่นฟ้า กางกั้น สัมพันธ์หมาย
ให้โศกศัลย์ เดียวดาย กลายขื่นขม
ต้องผิดหวัง พังพ่าย ใจระทม
หรือว่าพรหม ชี้ช่อง ให้หมองมัว
“สุนันยา”
ทิ้งความเศร้าโศกช้ำ ให้จำฝืน
ห้วงอารมณ์ ตรมเหงา เฝ้ากล้ำกลืน
ไร้สุขชิ่น ห่อห้อม ต้องตรอมตรม
หรือแผ่นฟ้า กางกั้น สัมพันธ์หมาย
ให้โศกศัลย์ เดียวดาย กลายขื่นขม
ต้องผิดหวัง พังพ่าย ใจระทม
หรือว่าพรหม ชี้ช่อง ให้หมองมัว
“สุนันยา”