ที่สิบเจ็ด กันยา ฝนมาใหญ่
ตกลงใส่ หลังคา ผวาหลอน
ลุกขึ้นนั่ง ฟังเสียง เอียงหูนอน
เปิดไฟก่อน มองดู รู้ทางฝน
ว่าวันนี้ เช่นไร ใจถึงเหงา
คิดถึงเขา หรือไร ใจสับสน
ฝนมาสั่ง ลาฟ้า ลาเบื้องบน
ให้บางคน ทีพร่ำ ส่งคำมา
ใจที่โหย ร่วงหาย กลายเป็นน้ำ
คงเย็นฉ่ำ ชุ่มจิต คิดหนักหนา
รอฝนส่าง เดินห่าง วางใจลา
หมดคำว่า รอรัก จากใจจริง
"saknun"
[/font]ตกลงใส่ หลังคา ผวาหลอน
ลุกขึ้นนั่ง ฟังเสียง เอียงหูนอน
เปิดไฟก่อน มองดู รู้ทางฝน
ว่าวันนี้ เช่นไร ใจถึงเหงา
คิดถึงเขา หรือไร ใจสับสน
ฝนมาสั่ง ลาฟ้า ลาเบื้องบน
ให้บางคน ทีพร่ำ ส่งคำมา
ใจที่โหย ร่วงหาย กลายเป็นน้ำ
คงเย็นฉ่ำ ชุ่มจิต คิดหนักหนา
รอฝนส่าง เดินห่าง วางใจลา
หมดคำว่า รอรัก จากใจจริง
"saknun"
หรือฝนเทียม เยี่ยมเย้า เหงาระบุ
หรือพายุ กระหน่ำ ให้ช้ำยิ่ง
หรือว่าใจ คนคอย พลอยท้วงติง
หรือว่าหญิง ร้างลา คราฝนลง
คิดถึงใคร ไม่รู้อยู่ในอก
พอฝนตก เริ่มร้าว เฝ้าลุ่มหลง
รอฝนซา พาชื่น ขื่นคลายปลง
ให้รีบส่ง ข่าวบอก มาหยอกเอิน
ฝนกระหน่ำ ซ้ำอีก ยากหลีกหลบ
ล้างรอยกลบ ลบลาพาขัดเขิน
เหมือนว่าใจ โหยหาล้าเหลือเกิน
มองฝนเพลิน กระหน่ำ ยิ่งช้ำทรวง...
"สุนันยา"
หรือพายุ กระหน่ำ ให้ช้ำยิ่ง
หรือว่าใจ คนคอย พลอยท้วงติง
หรือว่าหญิง ร้างลา คราฝนลง
คิดถึงใคร ไม่รู้อยู่ในอก
พอฝนตก เริ่มร้าว เฝ้าลุ่มหลง
รอฝนซา พาชื่น ขื่นคลายปลง
ให้รีบส่ง ข่าวบอก มาหยอกเอิน
ฝนกระหน่ำ ซ้ำอีก ยากหลีกหลบ
ล้างรอยกลบ ลบลาพาขัดเขิน
เหมือนว่าใจ โหยหาล้าเหลือเกิน
มองฝนเพลิน กระหน่ำ ยิ่งช้ำทรวง...
"สุนันยา"