เสียงเพลงถิ่นพงไพร
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า
สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน
สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล
สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
แต่สายสนกลทุนนั้นขุ่นนัก
เปลี่ยนสายซื่อถือภักดิ์ เป็นพรายผี
เลือนรุ้งสายกลายจริงสบสิงคลี
สะบั้นใยย่ำยี มิอยากยิน
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน
โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น
บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ
บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
เหลือแต่ร้อนรุมเร้าที่เร่ารุด
กับโคขุนเคียงหยุด บนจานใหญ่
จากเกวียนกงปลงโฉมเป็นโคมไฟ
มนต์ที่ไหม้เหมือดลับอับจรุง
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน
นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง
เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง
เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
นับเนาเนิ่นตำนานเหลือกาลนั้น
คงแต่คราบหมอกควันให้ฟันฝ่า
นกเรียงก่ายสายไฟใต้ชายคา
เนื่องทุ่งท่าถมถิ่นเป็นหินทราย
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว
ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย
สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย
เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
หากเหลือหลงสงสารรอยธารเก่า
เสียงแหบเจือจะถึงเจ้าหรือเปล่าหนอ
ห่วงแต่หวังวาดไว้ยังไม่พอ
เจ้าหรือรอแลกพร้อมจนยอมทวน
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว
ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน
สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน
เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
ชอบอยู่ชั้นอันประสิทธ์อามิสเถิด
อย่างกาเกิดแกล้งเล่นอยากเป็นหงส์
แม้นไกลนี้หวังน้อยจะคอยปลง
กับภาพพงไพรเก่าเงารางราง
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์
เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง
เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง
เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ