เสียงเพลงถิ่นพงไพร
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า
สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน
สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล
สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
แสงส่องซ้องทำนองเสียงร้องพริ้ว
พร่ำพร่ำผิวเพลงทุ่งรับรุ้งสี
แมลงปอคลอครวญม่วนฤดี
ท้องถิ่นนี้วันวานสำราญจินต์
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน
โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น
บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ
บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
หยาดน้ำค้างพร่างพรมพฤกษ์ชมชื่น
ชุ่มทั้งผืนท้องนากล้าไสว
ขอบคันนานุ่มเสน่ห์เสียงเรไร
กบตัวใหญ่หมอบใต้ใบพยุง
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน
นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง
เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง
เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
เฝ้าครวญคิดสะกิดใจตามสายฝน
ถึงวิมลผู้ผ่องพักตร์เมื่อปักกล้า
สองหนุ่มสาวเคล้าเคียงข้างคันนา
ป้อนข้าวปลาหนุนตักนิ่มอย่างพริ้มพราย
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว
ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย
สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย
เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
ท่วงทำนองซอซึงซ่อนซึ้งซ้อน
แม่งามงอนเงียบหายง่ายจริงหนอ
ลืมแล้วหรือรอยไถรอยไพรพ้อ
รอยที่รอรักเร้าอย่างเย้ายวน
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว
ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน
สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน
เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
เมื่อนวลน้องได้ยินอย่าสิ้นหวัง
กลับมายังท้องนานะนวลหงส์
กลับมาปักกล้านั้นให้มั่นคง
ช่วยชูชงโชยชื่นชีวาพลาง
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์
เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง
เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง
เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ
๑๕/๙/๒๕๕๕
ปล.เป็นการปรับแต่งจากโคลง “เสียงเพลงถิ่นพงไพร” มาเป็นกลอน แต่ไม่สัมผัสกันเลย ฮ่ะ ฮ่ะ
ใครจะลองเชื่อมกลอนดูก็แต่งแทรกให้สัมผัสในแต่ละบทได้เลยนะ ทุกท่าน
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า
สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน
สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล
สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
แสงส่องซ้องทำนองเสียงร้องพริ้ว
พร่ำพร่ำผิวเพลงทุ่งรับรุ้งสี
แมลงปอคลอครวญม่วนฤดี
ท้องถิ่นนี้วันวานสำราญจินต์
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน
โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น
บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ
บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
หยาดน้ำค้างพร่างพรมพฤกษ์ชมชื่น
ชุ่มทั้งผืนท้องนากล้าไสว
ขอบคันนานุ่มเสน่ห์เสียงเรไร
กบตัวใหญ่หมอบใต้ใบพยุง
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน
นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง
เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง
เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
เฝ้าครวญคิดสะกิดใจตามสายฝน
ถึงวิมลผู้ผ่องพักตร์เมื่อปักกล้า
สองหนุ่มสาวเคล้าเคียงข้างคันนา
ป้อนข้าวปลาหนุนตักนิ่มอย่างพริ้มพราย
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว
ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย
สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย
เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
ท่วงทำนองซอซึงซ่อนซึ้งซ้อน
แม่งามงอนเงียบหายง่ายจริงหนอ
ลืมแล้วหรือรอยไถรอยไพรพ้อ
รอยที่รอรักเร้าอย่างเย้ายวน
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว
ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน
สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน
เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
เมื่อนวลน้องได้ยินอย่าสิ้นหวัง
กลับมายังท้องนานะนวลหงส์
กลับมาปักกล้านั้นให้มั่นคง
ช่วยชูชงโชยชื่นชีวาพลาง
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์
เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง
เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง
เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ
๑๕/๙/๒๕๕๕
ปล.เป็นการปรับแต่งจากโคลง “เสียงเพลงถิ่นพงไพร” มาเป็นกลอน แต่ไม่สัมผัสกันเลย ฮ่ะ ฮ่ะ
ใครจะลองเชื่อมกลอนดูก็แต่งแทรกให้สัมผัสในแต่ละบทได้เลยนะ ทุกท่าน