เสียงเพลงถิ่นพงไพร
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า
สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน
สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล
สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
...เหล่าแม่บ้าน ผ่านมา บอกว่าสวย
รีบหากล้วย ช่วยขน คนละหวี
พร้อม น้ำตาล หวานจ๋อย อร่อยมี
ช่วยกันเชื่อม เร็วรี่ พี่อริญชย์...
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน
โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น
บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ
บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
...จึงย้ายหมู่ บางครั้ง ไปนั่งเชื่อม
กะทะเก่า จนเสื่อม เชื่อมไม่ได้
พี่อริญชย์ ชินช่วย ด้วยเร็วไว
เดี๋ยวกล้วยงอม เกินใฝ่ ไร้คนมุง...
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน
นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง
เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง
เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
......วันนี้ใคร่ กางเพิง เชิงหมาแหงน
นั่งรอแฟน มาช่วย เชื่อมกล้วยหนา
สี่โมงไย ไร้เงา ใครเข้ามา
กล้วยงอมเฉา แล้วหนา จะบ้าตาย...
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว
ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย
สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย
เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
...จึงเก็บของ ข้องใจ มือไม้สั่น
เอากล้วยหั่น กวนหมาย น้ำลายล่อ
กลิ่นกวนหอม ย้อมจินต์ คนกินพอ
หากพี่มา ต้องรอ ช่วยห่อกวน...
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว
ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน
สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน
เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
...ยามเห็นอ้าย ช่วยใจ ยิ่งใฝ่นัก
ยามกวนทัก ยิ้มไป ส่งใจหลง
ยามเพลินกวน ชวนว่า อย่ายืนตรง
รีบรีบส่ง ยิ้มหา สบตาพลาง...
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์
เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง
เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง
เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ
๑๕/๙/๒๕๕๕
ปล.เป็นการปรับแต่งจากโคลง “เสียงเพลงถิ่นพงไพร” มาเป็นกลอน แต่ไม่สัมผัสกันเลย ฮ่ะ ฮ่ะ
ใครจะลองเชื่อมกลอนดูก็แต่งแทรกให้สัมผัสในแต่ละบทได้เลยนะ ทุกท่าน
สายธารใสไหลหล่อเลี้ยงพอเพียงค่า
สายแห่งความเมตตาจากฟ้าฝน
สายรุ้งพร่างธารางามน่ายล
สายใยคนพื้นบ้านเนิ่นนานปี
...เหล่าแม่บ้าน ผ่านมา บอกว่าสวย
รีบหากล้วย ช่วยขน คนละหวี
พร้อม น้ำตาล หวานจ๋อย อร่อยมี
ช่วยกันเชื่อม เร็วรี่ พี่อริญชย์...
เพรงกาลเก่าทุกเมื่อเกวียนเกื้อหนุน
โคเคลื่อนหมุนเดินทางไปต่างถิ่น
บรรทุกสิ่งของมาเป็นอาจิณ
บัดนี้สิ้นมนต์เกวียนกาลเปลี่ยนไป
...จึงย้ายหมู่ บางครั้ง ไปนั่งเชื่อม
กะทะเก่า จนเสื่อม เชื่อมไม่ได้
พี่อริญชย์ ชินช่วย ด้วยเร็วไว
เดี๋ยวกล้วยงอม เกินใฝ่ ไร้คนมุง...
แสงทองทาบทุ่งข้าวหมอกขาวม่าน
นกกากล่อมกังวานบินผ่านทุ่ง
เสียงจิ้งหรีดแว่วมาร่วมผดุง
เป็นสื่อมุ่งเรื่องราวของชาวนา
......วันนี้ใคร่ กางเพิง เชิงหมาแหงน
นั่งรอแฟน มาช่วย เชื่อมกล้วยหนา
สี่โมงไย ไร้เงา ใครเข้ามา
กล้วยงอมเฉา แล้วหนา จะบ้าตาย...
เรียงคำหวานวาบหวิวแผ่วพลิ้วไหว
ลอยผ่านธารพงไพรด้วยใจหมาย
สื่อสาส์นถึงคนไกลอยู่ไม่คลาย
เพลงสุดท้ายก่อนลาน้ำตาคลอ
...จึงเก็บของ ข้องใจ มือไม้สั่น
เอากล้วยหั่น กวนหมาย น้ำลายล่อ
กลิ่นกวนหอม ย้อมจินต์ คนกินพอ
หากพี่มา ต้องรอ ช่วยห่อกวน...
มนต์เสียงขลุ่ยสะดุดสิ้นสุดแล้ว
ปานดั่งแก้วแตกอย่างไร้ทางหวน
สายธารแห่งความฝันเคยรัญจวน
เพลงคร่ำครวญเท่านั้นฤๅมั่นคง
...ยามเห็นอ้าย ช่วยใจ ยิ่งใฝ่นัก
ยามกวนทัก ยิ้มไป ส่งใจหลง
ยามเพลินกวน ชวนว่า อย่ายืนตรง
รีบรีบส่ง ยิ้มหา สบตาพลาง...
แสงเรืองรองทาบทาทุ่งสวรรค์
เสียงไก่ขันก้องทุ่งยามรุ่งสาง
เรไรร้องพรอดพร่ำซ่อนอำพราง
เพลงกล่อมบางลูกทุ่งผดุงไทย ฯ
๑๕/๙/๒๕๕๕
ปล.เป็นการปรับแต่งจากโคลง “เสียงเพลงถิ่นพงไพร” มาเป็นกลอน แต่ไม่สัมผัสกันเลย ฮ่ะ ฮ่ะ
ใครจะลองเชื่อมกลอนดูก็แต่งแทรกให้สัมผัสในแต่ละบทได้เลยนะ ทุกท่าน