เหมือน อยู่เดียวเปลี่ยวเหงาปวดร้าวจิต
ช่วงชีวิต อาภัพ ต้องสับสน
โชคชะตา พาเรา ให้เฝ้าทน
ดั่งเช่นคน ร่างไร้ ในวิญญาณ์
ตาย หรืออยู่ ต่างกัน นั้นตรงไหน
เมื่อหัวใจ ไห้หวน คร่ำครวญหา
จากห้วงความรู้สึกที่ตรึกตรา
ในอุราเคยถวิล สิ้นอาลัย
ทั้ง ที่เคย เคียงขวัญ สัญญาฝาก
ด้วยมีมาก รักปลอบมอบสดใส
สองเราร่วมสร้างฝัน สัญญาใจ
ผูกสายใย สัมพันธ์ อยู่นานปี
เป็น หนึ่งใจ ร่วมเรียง เคียงสลัก
มอบความรัก ภักดิ์ปอง สิ้นหมองศรี
ส่งแรงใจ ให้กัน ทุกวันมี
ถึงวันนี้ต้องร้าง กลายหมางเมิน
ลมหายใจ ยังอยู่ ได้รู้รับ
ที่ซึมซับ กลับกลาย ให้ขัดเขิน
เหมือนเป็นคน แปลกหน้าไม่กล้าเผชิญ
ต่างต้องเดินหลบตาไม่กล้ามอง
ด้วยเหตุผล ล้นล้ำ จะนำกล่าว
ในเรื่องราว คราวที่ ฤดีหมอง
สองเราจำ พรากไป มิได้ครอง
น้ำตานอง พร่างพราย“ตายทั้งเป็น”
“สุนันยา”
ด้วยทรวงใน ใจจิต ไม่ผิดน้อง
ความเศร้าจอง ร้องหา กว่าตาเห็น
สุดระกำ ช้ำเหลือ ขาดเนื้อเย็น
ตายทั้งเป็น เซ่นรัก ที่หักลา
ฤา โลกา ฟ้าดิน นั้นสิ้นแล้ว
จากน้องแก้ว แคล้วใจ อาลัยหา
ดุจดวงแด แพ้พราก จากกายา
แม้นเจ็บไหน ใดหนา หาเท่านี้
ถึงคมมีด กรีดเนื้อ ยังเหลืออด
แต่พิษรัก ปักรส อยากถดหนี
ขาดเจ้าเหมือน เดือนสิ้น กลิ่นราตรี
หัวอกพี่ ลี้ฝัง ตายทั้งเป็น