ฝานกุนเชียง เรียงใบตอง กรองหมูบด
กะทิสด ทอดเม็ดม่วง ทรวงสนั่น
นึ่งข้าวเหนียว เจียวกระเทียม เตรียมน้ำมัน
กะให้ทัน ห่อบะจ่าง เสร็จกลางคืน
ฉีกตอกไผ่ ใช้มัด รัดตองห่อ
ใจยุบฝ่อ สะดุด เกินสุดฝืน
รับจดหมาย ท้าย..ดิน สิ้นวานซืน
เธอสะอื้น.กระัดาษ วาดส่งมา
คีมเขี่ยเถ้า ถ่านแดง ลุกแรงร้อน
ต้องไฟอ่อน ไอกรวย พุ่งพวยหน้า
เหงื่อหลั่งไหล ใจทุรน ปนน้ำตา
คร่ำครวญหา โฉมตรู อยู่มิวาย
ขนมนอน ซ้อนวาง กลางกระจาด
ส่งตลาด.ลูกค้า ท่าซื้อขาย
ชุลมุน วุ่นวน จนตาลาย
พอเลยบ่าย หมดปั๊บ กลับทันที
หยิบปากกา หน้าคอมพ์ นั่งจ่อมเขียน
กำหนดเยียน เนื้อทอง น้องของพี่
แกะออมสิน บินมา หาคนดี
ตรงวันที่ สิบห้า กันยายน
รพีกาญจน์ 59
รับจดหมาย ตอบกลับ ซับสะอื้น
ยิ้มพร้อมกลืน น้ำตา นองหน้าหม่น
สุขยิ่งนัก รักหนอ จักขอทน
มิ่งกมล คนจริง ที่หญิงคอย
ทำงานหนัก มิหวั่น เช้ายันค่ำ
อ่านประจำ จดหมาย คลายเหงาหงอย
ยิ้มกับเงา เฝ้าส่งใจ สู่ปลายดอย
มิท้อถอย อดทน เพื่อคนไกล
เร่งวันคืน เคลื่อนคล้อย ลอยลาเลื่อน
ดั่งเป็นเหมือน ที่ฝัน นั้นมิได้
ที่สิบห้า กันยา ว่าช้าไป
เสก(พี่)"รพีฯ" เคียงใกล้ ในบัดNow.(เพี้ยง..?)
ยิ้มพร้อมกลืน น้ำตา นองหน้าหม่น
สุขยิ่งนัก รักหนอ จักขอทน
มิ่งกมล คนจริง ที่หญิงคอย
ทำงานหนัก มิหวั่น เช้ายันค่ำ
อ่านประจำ จดหมาย คลายเหงาหงอย
ยิ้มกับเงา เฝ้าส่งใจ สู่ปลายดอย
มิท้อถอย อดทน เพื่อคนไกล
เร่งวันคืน เคลื่อนคล้อย ลอยลาเลื่อน
ดั่งเป็นเหมือน ที่ฝัน นั้นมิได้
ที่สิบห้า กันยา ว่าช้าไป
เสก(พี่)"รพีฯ" เคียงใกล้ ในบัดNow.(เพี้ยง..?)
"ดิน"