~* ช่วงขณะของราตรี *~
ขณะนั่งทอดถอนใจในความเศร้า
ข้างตัวเรามีเพียงเงาเฝ้าเป็นเพื่อน
ในฉากตอนของทรงย้ำคอยย้ำเตือน
ความรู้สึกมิลางเลือนเหมือนบางคน
ฉันกลับเฝ้าคิดถึงอยู่อย่างนั้น
ทุกคืนวันมองฟ้าไกลด้วยใจหม่น
อธิฐานผ่านจันทราล้าเหลือทน
เสียงพร่ำบ่นกลับไร้ผล.. คนยาเยียว
มืดนิทราพาใจให้ไหวหวั่น
หนาวคืนวันอับฝันพระจันทร์เสี้ยว
ฉันยังอยู่เพียงลำพัง.. .นั่งคนเดียว
สายตายังแลเหลียวข้องเกี่ยวดาว
“เธอจะเหงาเท่ากันกับฉันไหม”
คำถามใหม่เกิดในใจรวดร้าว
ความหม่นเศร้าเขาบอกว่าชั่วคราว
แต่ไฉนทุกข์ฉันยาวเล่าดารา.. .
กระชับกอดรอบกายหมายอบอุ่น
เมื่ออ้อนวอนไร้การุณจากฟากฟ้า
ให้ความเศร้าเฝ้าสุมรุมชีวา
ปล่อยน้ำตาให้รินร่วงในห้วงใจ.. .
Design with love”
คืนนี้เธอมองดาวที่พราวฟ้า
แล้วถามว่าเธอเหงาเท่าฉันไหม?
ตาเราสองมองมาสู่ฟ้าไกล
คือฤทัยสองเราที่เฝ้ารอ
คิดถึงเธอที่สุด ณ จุดหนึ่ง
จุดที่ซึ่งเธอ ฉัน นั้นเฝ้าก่อ
สานความรักจากใจใฝ่ถักทอ
แม้ยามท้อ อย่าถอย อย่าน้อยใจ
ขอให้รู้ยามนี้มีเราสอง
เฝ้าประคองเคียงกันอย่าหวั่นไหว
เพียงสองเรารู้ซึ้งถึงภายใน
ว่าหทัย สองเรา เคล้า เคลีย คลอ
“ไพร พนาวัลย์”
แล้วถามว่าเธอเหงาเท่าฉันไหม?
ตาเราสองมองมาสู่ฟ้าไกล
คือฤทัยสองเราที่เฝ้ารอ
คิดถึงเธอที่สุด ณ จุดหนึ่ง
จุดที่ซึ่งเธอ ฉัน นั้นเฝ้าก่อ
สานความรักจากใจใฝ่ถักทอ
แม้ยามท้อ อย่าถอย อย่าน้อยใจ
ขอให้รู้ยามนี้มีเราสอง
เฝ้าประคองเคียงกันอย่าหวั่นไหว
เพียงสองเรารู้ซึ้งถึงภายใน
ว่าหทัย สองเรา เคล้า เคลีย คลอ
“ไพร พนาวัลย์”