แล้วแดดก็วายเมื่อบ่าย-บ่าย
ไม้ร่ายยอดวีอยู่ไหว-ไหว
ฟ่อนเมฆลอยเลื่อนอยู่ไร-ไร
ความเหงาใหม่-ใหม่มาเยี่ยมเยียน
เหงาว่า...บ่ายแล้วหนอวันนี้
กระดาษเปล่ายังไม่มีสักข้อเขียน
เหงาว่า...บ่ายแล้วยังวนเวียน
เพ้อพร่ำไม่เปลี่ยนไม่ปรับปรุง
เหงาว่า...อยากเห็นดอกไม้บาน
แต่ที่เห็นเหี่ยวกร้านและยับยุ่ง
เหงาว่า...ฝังกายอยู่ในกรุง
แต่หัวใจหมายมุ่งท้องทุ่งนา
บ่าย-บ่าย เหงา-เหงา และ เบื่อ-เบื่อ
รื้น-รื้น เรื่อ-เรื่อ และ พร่า-พร่า
ยกหลังมือป้ายปาดริมขอบตา
บ้า-บ้า บอ-บอ ไป วัน-วัน
ไม้ร่ายยอดวีอยู่ไหว-ไหว
ฟ่อนเมฆลอยเลื่อนอยู่ไร-ไร
ความเหงาใหม่-ใหม่มาเยี่ยมเยียน
เหงาว่า...บ่ายแล้วหนอวันนี้
กระดาษเปล่ายังไม่มีสักข้อเขียน
เหงาว่า...บ่ายแล้วยังวนเวียน
เพ้อพร่ำไม่เปลี่ยนไม่ปรับปรุง
เหงาว่า...อยากเห็นดอกไม้บาน
แต่ที่เห็นเหี่ยวกร้านและยับยุ่ง
เหงาว่า...ฝังกายอยู่ในกรุง
แต่หัวใจหมายมุ่งท้องทุ่งนา
บ่าย-บ่าย เหงา-เหงา และ เบื่อ-เบื่อ
รื้น-รื้น เรื่อ-เรื่อ และ พร่า-พร่า
ยกหลังมือป้ายปาดริมขอบตา
บ้า-บ้า บอ-บอ ไป วัน-วัน
สุขทุกข์คลุกเศร้าเคล้าผสม
อาบลมห่มแดดแลเห็นหวัน
เจ่าจุกขลุกขลักบ้างเป็นบางวัน
คงคล้ายกันเพราะมนุษย์ไม่หยุดคิด
ลูกแมงป่อง
อาบลมห่มแดดแลเห็นหวัน
เจ่าจุกขลุกขลักบ้างเป็นบางวัน
คงคล้ายกันเพราะมนุษย์ไม่หยุดคิด
ลูกแมงป่อง