ความรู้สึกคาใจให้หงุดหงิด
นั่งครวญคิดครวญคำอยากพร่ำขาน
ด้วยบ้านกลอนก่อนเก่าเราเบิกบาน
จะเขียนอ่านตามกฎรสอารมณ์
มีอะไรกล่าวขานหรือวานบอก
ไม่เขียนออกหน้าบอร์ดขอดให้ขม
ใช้ข้อความหลังไมค์ได้ชื่นชม
อื่นไม่สมไม่สู่ไม่รู้ความ
ด้วยเกรงใจในศักดิ์ศรีที่หยิบยื่น
ใช่ใดอื่นคุณค่าอย่าเหยียดหยาม
ผู้รู้มากฝากรู้น้อยคอยติดตาม
ใช่เข้าหามตามแค่นดั่งแค้นเคือง
แล้วตัวตนคนสอนก็ออนอ้าง
เขียนแนวทางวางกวินจนสิ้นเรื่อง
ให้ใครอื่นตื่นตามงามรองเรือง
ได้ประเทืองปัญญาเรียกว่า “ครู”
ไม่มีใครกล้าวิจารณ์การขีดเขียน
ใช่ห้องเรียนเปลี่ยนคะแนนเป็นแก่นหรู
ที่ลานกลอนวอนหวังออกพรั่งพรู
ต่างเรียนรู้คู่กันทั้งฉันเธอ
ไม่มีใครไม่ฝากมากสามารถ
แต่ก็อาจจำกัดถนัดเผลอ
เรียนมาน้อยไม่เรียนตรงส่งให้เจอ
คำเสนออาจขัดข้องเป็นร่องกลอน
........
แล้วมีใครตั้งใครให้ตามติด
ใครให้สิทธิ์เมื่อไหร่เข้าไปสอน
หรือแก่กล้าวิชาพาเว้าวอน
จนรุ่มร้อนเกินห้าม..ไม่ปรามตน..
นั่งครวญคิดครวญคำอยากพร่ำขาน
ด้วยบ้านกลอนก่อนเก่าเราเบิกบาน
จะเขียนอ่านตามกฎรสอารมณ์
มีอะไรกล่าวขานหรือวานบอก
ไม่เขียนออกหน้าบอร์ดขอดให้ขม
ใช้ข้อความหลังไมค์ได้ชื่นชม
อื่นไม่สมไม่สู่ไม่รู้ความ
ด้วยเกรงใจในศักดิ์ศรีที่หยิบยื่น
ใช่ใดอื่นคุณค่าอย่าเหยียดหยาม
ผู้รู้มากฝากรู้น้อยคอยติดตาม
ใช่เข้าหามตามแค่นดั่งแค้นเคือง
แล้วตัวตนคนสอนก็ออนอ้าง
เขียนแนวทางวางกวินจนสิ้นเรื่อง
ให้ใครอื่นตื่นตามงามรองเรือง
ได้ประเทืองปัญญาเรียกว่า “ครู”
ไม่มีใครกล้าวิจารณ์การขีดเขียน
ใช่ห้องเรียนเปลี่ยนคะแนนเป็นแก่นหรู
ที่ลานกลอนวอนหวังออกพรั่งพรู
ต่างเรียนรู้คู่กันทั้งฉันเธอ
ไม่มีใครไม่ฝากมากสามารถ
แต่ก็อาจจำกัดถนัดเผลอ
เรียนมาน้อยไม่เรียนตรงส่งให้เจอ
คำเสนออาจขัดข้องเป็นร่องกลอน
........
แล้วมีใครตั้งใครให้ตามติด
ใครให้สิทธิ์เมื่อไหร่เข้าไปสอน
หรือแก่กล้าวิชาพาเว้าวอน
จนรุ่มร้อนเกินห้าม..ไม่ปรามตน..
"บ้านริมโขง"
๘ กันยายน ๒๕๕๕